วันนี้ครูเชียงราย มีข่าวอัพเดทเกี่ยวกับ ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งในวันที่ 22 เม.ย.66 วิษณุ ผอ.สวก. ได้นำเสนอผ่านทางเพจของท่านเอง
“ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551”
สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับ “การจัดกลุ่มตัวชี้วัด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551”
1.สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สำหรับให้ท้องถิ่นและสถานศึกษาขั้นพื้นฐานใช้เป็นกรอบและทิศทางในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา การจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางฯ 2551 และจำแนกตัวชี้วัดเป็นตัวชี้วัดต้องรู้และตัวชี้วัดควรรู้ โดยใช้ตัวชี้วัดต้องรู้เป็นกรอบในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O – NET)
ในปี พ.ศ. 2560 ได้ปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ทำให้มีจำนวนตัวชี้วัดใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้งสิ้น 2,056 ตัวชี้วัด
2.จากการลงพื้นที่ติดตามผลการใช้หลักสูตรแกนกลางฯ 2551 และจากการประชุมร่วมกับหน่วยงานภายนอกที่จัดการศึกษา พบว่า จำนวนตัวชี้วัดมีจำนวนมาก ซ้ำซ้อน ทำให้ครูผู้สอนต้องใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดและประเมินที่มาก จึงจะบรรลุคุณภาพตามที่กำหนด
กอปรกับคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะอนุกรรมการด้านคุณภาพและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ ใน กพฐ. ได้กำหนดเป้าหมายหลักเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยมีแผนการดำเนินงานยกระดับและผลลัพธ์ ในมิติหลักสูตร การพัฒนาแนวทางการพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานในอนาคต เพื่อส่งเสริมการนำหลักสูตรที่ใช้อยู่ไปสู่การปฏิบัติในชั้นเรียนอย่างยืดหยุ่นและคล่องตัว
รวมทั้ง การยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยการพิจารณาจัดกลุ่มตัวชี้วัดในหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 เพื่อลดภาระในการจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล ไม่สร้างความเหลื่อมล้ำในการเรียนรู้ของผู้เรียน และเพิ่มโอกาสให้ครูและผู้เรียนได้เข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อการพัฒนาตนเองที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
3.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้ดำเนินการจัดประชุมปฏิบัติการพิจารณาเพื่อหลอมรวม จัดกลุ่มตัวชี้วัดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อลดความซ้ำซ้อนของตัวชี้วัด สำหรับให้สถานศึกษาจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา และใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลให้ผู้เรียนบรรลุคุณภาพตามที่หลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565- มีนาคม 2566 โดยได้นำเสนอผลการดำเนินงานต่อคณะอนุกรรมการด้านคุณภาพและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ ในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง
4.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้นำเสนอผลการดำเนินการจัดกลุ่มตัวชี้วัด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ต่อคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นเรื่องสืบเนื่องเพื่อทราบ ในการประชุม กพฐ. ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 ที่ประชุมมีมติรับทราบ และมอบคณะอนุกรรมการด้านคุณภาพและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ใน กพฐ. ดำเนินการพิจารณาจำนวนตัวชี้วัดปลายทางให้ไม่เกิน 800 ตัวชี้วัด
5.คณะอนุกรรมการด้านคุณภาพและเทคโนโลยี เพื่อการเรียนรู้ใน กพฐ. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ดำเนินการตามมติ กพฐ. จัดกลุ่มตัวชี้วัด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6ได้ดังนี้
1) จำนวนตัวชี้วัดทั้งสิ้น 2,056 ตัวชี้วัด สามารถจำแนกเป็นตัวชี้วัดระหว่างทาง 1,285 ตัวชี้วัด และตัวชี้วัดปลายทาง 771 ตัวชี้วัด ทั้งนี้ จำนวนตัวชี้วัดยังคงครบถ้วน และผู้เรียนมีคุณภาพตามที่หลักสูตรแกนกลางฯ กำหนด
2) ตัวชี้วัดปลายทางเป็นตัวชี้วัดผลลัพธ์สุดท้ายที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน ส่วนตัวชี้วัดระหว่างทางเป็นตัวชี้วัดระหว่างการจัดการเรียนรู้
3) จำนวนตัวชี้วัดในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้จะมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้
4) ตัวชี้วัดในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้สามารถอธิบายภาพความสำเร็จของผู้เรียนได้ โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของตัวชี้วัด
5) กิจกรรมที่ต้องดำเนินการต่อไป คือ
(1) จัดทำแนวปฏิบัติเกณฑ์การตัดสินผลการเรียน
(2) จัดทำตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
(3) สื่อสารสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หมายเหตุ
การคัดสรรตัวชี้วัดระหว่างทางและปลายทาง
1. เป็นการคัดสรรตัวชี้วัดสำคัญซึ่งสะท้อนผลลัพธ์การเรียนรู้หลักที่จะใช้ในการวัดและประเมินผลเพื่อลดภาระของครูและนักเรียนในการวัดและประเมิน โดยไม่เสียคุณภาพ
2. จำนวนตัวชี้วัดในแต่ละกลุ่มสาระไม่ได้สะท้อนความสำคัญของกลุ่มสาระ
3. จำนวนตัวชี้วัดจะขึ้นกับธรรมชาติของกลุ่มสาระนั้นๆ เป็นสำคัญ
4. จำนวนตัวชี้วัดปลายทาง 771 ตัวชี้วัดนี้ สามารถอธิบายความสำเร็จของผู้เรียนในการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานได้อย่างเพียงพอ
แนวทางในการนำตัวชี้วัดปลายทางไปใช้
1. สพฐ. กำหนดแนวทางในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยใช้ตัวชี้วัดปลายทางในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้และแต่ละระดับชั้น
2. ครูประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนรู้ โดย ใช้ตัวชี้วัดปลายทาง 771 ตัวชี้วัด
3. ตัวชี้วัดที่เหลือซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดระหว่างทาง ให้ครูใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนการสอน โดยอาจมีการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นหลัก แต่ไม่ต้องนำไปรวมเพื่อตัดสินผลการเรียนรู้
4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้นั้นจะใช้มโนทัศน์ของการประเมินเพื่อพัฒนา (Assessment for Learning) เป็นหลัก โดยเน้นการให้ผลป้อนกลับที่มีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาผู้เรียนที่มากพอ (Constructive Feedback) โดยใช้วิธีการประเมินที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ
ที่มา โพสต์ของ วิษณุ ผอ.สวก.