ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน "วรรคทอง" บางตอนจาก นิราศภูเขาทอง ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน "วรรคทอง" บางตอนจาก นิราศภูเขาทอง

ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน “วรรคทอง” บางตอนจาก นิราศภูเขาทอง

ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน "วรรคทอง" บางตอนจาก นิราศภูเขาทอง

นิราศภูเขาทอง เป็นนิราศที่สุนทรภู่ประพันธ์ขณะบวชเป็นพระภิกษุ ระหว่างการเดินทางไปนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทองที่กรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน) เมื่อเดือนสิบเอ็ด ปีชวด พ.ศ. 2371 จากคำพรรณนาความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในนิราศภูเขาทอง ทำให้เห็นว่าสุนทรภู่ยังคงจงรักภักดีต่อพระองค์มาโดยตลอด

“วรรคทอง” บางตอนจาก นิราศภูเขาทอง

ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก

สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน

ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป

แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ

ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์

มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร

จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์

มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด

ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด

ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

(พระฤาษีสอนสุดสาคร)

แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ

ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา

รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา

รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

(พระฤาษีสอนสุดสาคร)

อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ

ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน

แค่องค์พระปฏิมายังราคิน

คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา

นิราศภูเขาทองแต่งด้วยกลอนนิราศ มีความคล้ายคลึงกับกลอนสุภาพ แต่เริ่มด้วยวรรครับจบ ด้วยวรรคส่งลงท้ายด้วยคำว่า เอย มีความยาวเพียง 89 คำกลอนเท่านั้น แต่มีความไพเราะและเรียบง่าย ตามแบบฉบับของสุนทรภู่ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย บรรยายความรู้สึกขณะเดียวกันก็เล่าถึงสภาพของความเป็นมาของบ้านเมืองในสมัยนั้น

ชุดข้าราชการ หญิงแขนสั้น
ชุดกากี
สั่งซื้อได้เลยจาก Shopee

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *