ข้อสอบใบขับขี่ 2568 ข้อสอบใบขับขี่ 2568

แจกแนวข้อสอบใบขับขี่ 2568 จำนวน 50 ข้อ พร้อมเฉลย

สวัสดีครับผู้ที่กำลังจะสอบใบขับขี่ทุกท่าน วันนี้ครูเชียงรายมีแนวข้อสอบใบขับขี่ล่าสุดปี 2568 มาฝากกัน รวบรวมครบทุกหมวด ทั้งกฎหมายจราจร ป้ายจราจร การขับขี่ปลอดภัย และการบำรุงรักษารถยนต์ พร้อมเฉลยละเอียด

หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์

  1. ในขณะขับรถผู้ขับขี่ต้องมีเอกสารใดใช้คู่กับใบอนุญาตขับรถ
  • ก. บัตรประจำตัวประชาชน
  • ข. สำเนาทะเบียนบ้าน
  • ค. สำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ
  • ง. บัตรประกันสังคม

เฉลย: ก. บัตรประจำตัวประชาชน
คำอธิบาย: ตามกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องพกบัตรประจำตัวประชาชนควบคู่กับใบอนุญาตขับรถเสมอ เพื่อยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่

  1. ผู้ขับรถกระทำผิดตามกฎหมายจราจรทางบกและได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจรต้องไปติดต่อชำระค่าปรับภายในกี่วัน
  • ก. 10 วัน
  • ข. 7 วัน
  • ค. 15 วัน
  • ง. 30 วัน

เฉลย: ข. 7 วัน
คำอธิบาย: เมื่อได้รับใบสั่ง ผู้ขับขี่ต้องไปชำระค่าปรับภายใน 7 วัน มิฉะนั้นอาจมีโทษปรับเพิ่ม

  1. เมื่อใบอนุญาตขับรถสูญหายหรือชำรุดต้องยื่นขอรับใบแทนต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน
  • ก. 20 วัน
  • ข. 30 วัน
  • ค. 15 วัน
  • ง. 45 วัน

เฉลย: ค. 15 วัน
คำอธิบาย: ต้องยื่นขอรับใบแทนภายใน 15 วันนับแต่วันที่ทราบเหตุสูญหายหรือชำรุด

  1. ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถ มีความผิดอย่างไร
  • ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี
  • ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ค. ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ง. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

เฉลย: ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำอธิบาย: เป็นความผิดที่มีโทษทั้งจำและปรับ เพื่อป้องปรามผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่

  1. ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวมีอายุกี่ปี
  • ก. 2 ปี
  • ข. 1 ปี
  • ค. 3 ปี
  • ง. 4 ปี

เฉลย: ข. 1 ปี
คำอธิบาย: ใบอนุญาตขับรถชั่วคราวมีอายุ 1 ปี เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะการขับขี่ก่อนขอรับใบอนุญาตขับรถถาวร

หมวดเครื่องหมายพื้นทาง

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. เพิ่มความระมัดระวังแล้วหยุดรถ
  • ข. เพิ่มความระมัดระวังเขตหยุดรับ-ส่ง
  • ค. ขับรถให้ช้าลงถ้าเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางข้างหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นให้ทาง
  • ง. เพิ่มความระมัดระวังแล้วจอดรถ

เฉลย: ค. ขับรถให้ช้าลงถ้าเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางข้างหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นให้ทาง
คำอธิบาย: เป็นเครื่องหมายเตือนให้ระวังและชะลอความเร็ว เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. เส้นชะลอความเร็ว
  • ข. ให้เลี้ยวรถได้
  • ค. ห้ามเลี้ยวรถ
  • ง. ให้จอดรถได้

เฉลย: ก. เส้นชะลอความเร็ว
คำอธิบาย: เป็นเครื่องหมายบนพื้นทางที่เตือนให้ผู้ขับขี่ลดความเร็ว

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วลงและรีบเร่งเครื่องไปก่อน
  • ข. ขับรถให้ช้าลงหากเห็นรถคันอื่น หรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
  • ค. ให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างรวดเร็ว
  • ง. ให้ผู้ขับขี่ขับรถให้ช้าลงแล้วแซงได้

เฉลย: ข. ขับรถให้ช้าลงหากเห็นรถคันอื่น หรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
คำอธิบาย: เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางทุกคน

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับรถภายในช่องจราจร ห้ามแซงห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด
  • ข. ขับรถให้ช้าลงให้เลี้ยวขวา
  • ค. ขับรถไปทางด้านขวา ให้เลี้ยวซ้าย
  • ง. เพิ่มความระมัดระวังห้ามเลี้ยวซ้าย

เฉลย: ก. ขับรถภายในช่องจราจร ห้ามแซงห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด
คำอธิบาย: เป็นเส้นทึบเตือนห้ามแซง ห้ามคร่อมเส้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. เพิ่มความระมัดระวังและห้ามแซง
  • ข. ขับรถในช่องการจราจร ห้ามคร่อมเส้น แต่แซงได้
  • ค. เพิ่มความระมัดระวังห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
  • ง. ขับรถให้ช้าลงขับรถคร่อมเส้นได้

เฉลย: ค. เพิ่มความระมัดระวังห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
คำอธิบาย: เครื่องหมายนี้บ่งบอกว่าห้ามเปลี่ยนช่องจราจร ต้องขับในช่องทางของตนเท่านั้น

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ให้ขับรถแซงคันอื่นได้เลยในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ข. ให้ทางแก่รถคันอื่นก่อน ในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ค. ให้หยุดรถก่อนในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ง. ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในเขตทางที่ติดตั้งป้าย

เฉลย: ง. ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายบังคับห้ามแซง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ห้ามขับรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย
  • ข. ให้คนเดินเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ค. ให้เฉพาะรถเก๋งเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ง. ให้รถเข้าไปได้ในเขตที่ติดตั้งป้าย

เฉลย: ก. ห้ามขับรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามเข้า ห้ามรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางนั้น

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. ห้ามกลับรถไปทางขวา
  • ข. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
  • ค. ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ง. ให้กลับรถไปทางขวา

เฉลย: ก. ห้ามกลับรถไปทางขวา
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามกลับรถไปทางขวา ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ข. ห้ามกลับรถไปทางขวา
  • ค. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
  • ง. ให้กลับรถไปทางขวา

เฉลย: ค. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามกลับรถไปทางซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตาม

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ข. ให้กลับรถไปทางขวา
  • ค. ห้ามเลี้ยวซ้าย
  • ง. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย

เฉลย: ค. ห้ามเลี้ยวซ้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามเลี้ยวซ้าย ผู้ขับขี่ต้องไม่เลี้ยวซ้ายในบริเวณที่มีป้ายนี้

หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก

  1. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
  • ข. เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ
  • ค. หากไม่มีสัญญาณไฟจราจรให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
  • ง. เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ

เฉลย: ก. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
คำอธิบาย: ทางร่วมทางแยกเป็นจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย

  1. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
  • ข. เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร
  • ค. หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว
  • ง. เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว

เฉลย: ก. ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
คำอธิบาย: กฎหมายกำหนดให้ต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นรับทราบความตั้งใจของเรา

  1. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. หยุดทับเส้นแนวหยุด
  • ข. หยุดหลังเส้นแนวหยุด
  • ค. หยุดเลยเส้นแนวหยุด
  • ง. หยุดเลยป้ายหยุด

เฉลย: ข. หยุดหลังเส้นแนวหยุด
คำอธิบาย: ต้องหยุดรถหลังเส้นแนวหยุดเสมอ เพื่อความปลอดภัยและไม่กีดขวางการจราจร

  1. บริเวณใดห้ามแซง
  • ก. ทางตรง
  • ข. ทางที่ปลอดภัย
  • ค. ทางโล่ง
  • ง. ทางโค้งรัศมีแคบ

เฉลย: ง. ทางโค้งรัศมีแคบ
คำอธิบาย: ห้ามแซงในทางโค้งรัศมีแคบเพราะเป็นจุดอับสายตา อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

  1. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกินกี่เซนติเมตร
  • ก. ห่างไม่เกิน 35 เซนติเมตร
  • ข. ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร
  • ค. ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร
  • ง. ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร

เฉลย: ข. ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร
คำอธิบาย: กฎหมายกำหนดให้จอดรถห่างจากขอบทางไม่เกิน 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจรและเหลือพื้นที่ถนนให้รถคันอื่นสัญจรได้สะดวก

ต้องการข้อต่อไปไหมครับ? ผมสามารถช่วยรวบรวมข้อสอบข้อถัดไปให้ได้ครับ

หมวดเครื่องหมายพื้นทาง

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. เพิ่มความระมัดระวังแล้วหยุดรถ
  • ข. เพิ่มความระมัดระวังเขตหยุดรับ-ส่ง
  • ค. ขับรถให้ช้าลงถ้าเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางข้างหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นให้ทาง
  • ง. เพิ่มความระมัดระวังแล้วจอดรถ

เฉลย: ค. ขับรถให้ช้าลงถ้าเห็นว่าจะไม่ปลอดภัยต่อรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางข้างหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงเส้นให้ทาง
คำอธิบาย: เป็นเครื่องหมายเตือนให้ระวังและชะลอความเร็ว เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. เส้นชะลอความเร็ว
  • ข. ให้เลี้ยวรถได้
  • ค. ห้ามเลี้ยวรถ
  • ง. ให้จอดรถได้

เฉลย: ก. เส้นชะลอความเร็ว
คำอธิบาย: เป็นเครื่องหมายบนพื้นทางที่เตือนให้ผู้ขับขี่ลดความเร็ว

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วลงและรีบเร่งเครื่องไปก่อน
  • ข. ขับรถให้ช้าลงหากเห็นรถคันอื่น หรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
  • ค. ให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างรวดเร็ว
  • ง. ให้ผู้ขับขี่ขับรถให้ช้าลงแล้วแซงได้

เฉลย: ข. ขับรถให้ช้าลงหากเห็นรถคันอื่น หรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
คำอธิบาย: เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางทุกคน

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับรถภายในช่องจราจร ห้ามแซงห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด
  • ข. ขับรถให้ช้าลงให้เลี้ยวขวา
  • ค. ขับรถไปทางด้านขวา ให้เลี้ยวซ้าย
  • ง. เพิ่มความระมัดระวังห้ามเลี้ยวซ้าย

เฉลย: ก. ขับรถภายในช่องจราจร ห้ามแซงห้ามขับรถผ่านหรือคร่อมเส้นโดยเด็ดขาด
คำอธิบาย: เป็นเส้นทึบเตือนห้ามแซง ห้ามคร่อมเส้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. เพิ่มความระมัดระวังและห้ามแซง
  • ข. ขับรถในช่องการจราจร ห้ามคร่อมเส้น แต่แซงได้
  • ค. เพิ่มความระมัดระวังห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
  • ง. ขับรถให้ช้าลงขับรถคร่อมเส้นได้

เฉลย: ค. เพิ่มความระมัดระวังห้ามเปลี่ยนช่องการจราจร
คำอธิบาย: เครื่องหมายนี้บ่งบอกว่าห้ามเปลี่ยนช่องจราจร ต้องขับในช่องทางของตนเท่านั้น

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ให้ขับรถแซงคันอื่นได้เลยในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ข. ให้ทางแก่รถคันอื่นก่อน ในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ค. ให้หยุดรถก่อนในเขตที่มีเครื่องหมายนี้
  • ง. ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในเขตทางที่ติดตั้งป้าย

เฉลย: ง. ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายบังคับห้ามแซง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ห้ามขับรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย
  • ข. ให้คนเดินเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ค. ให้เฉพาะรถเก๋งเข้าไปในเขตที่ติดตั้งป้าย
  • ง. ให้รถเข้าไปได้ในเขตที่ติดตั้งป้าย

เฉลย: ก. ห้ามขับรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามเข้า ห้ามรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางนั้น

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. ห้ามกลับรถไปทางขวา
  • ข. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
  • ค. ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ง. ให้กลับรถไปทางขวา

เฉลย: ก. ห้ามกลับรถไปทางขวา
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามกลับรถไปทางขวา ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ข. ห้ามกลับรถไปทางขวา
  • ค. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
  • ง. ให้กลับรถไปทางขวา

เฉลย: ค. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามกลับรถไปทางซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตาม

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. ให้กลับรถไปทางซ้าย
  • ข. ให้กลับรถไปทางขวา
  • ค. ห้ามเลี้ยวซ้าย
  • ง. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย

เฉลย: ค. ห้ามเลี้ยวซ้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายห้ามเลี้ยวซ้าย ผู้ขับขี่ต้องไม่เลี้ยวซ้ายในบริเวณที่มีป้ายนี้

หมวดป้ายเตือน

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังทำงาน อาจมีวัสดุอุปกรณ์วางบนเส้นทางจราจร
  • ข. ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังสำรวจทาง
  • ค. ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังเครื่องจักรกำลังทำงาน
  • ง. ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังสำรวจสิ่งก่อสร้าง

เฉลย: ก. ให้ขับรถช้าลงและระมัดระวังคนงานกำลังทำงาน อาจมีวัสดุอุปกรณ์วางบนเส้นทางจราจร
คำอธิบาย: เป็นป้ายเตือนให้ระวังคนทำงาน ต้องชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ควรขับรถให้ช้าลงและระมัดระวังทางข้างหน้ากำลังมีงานสำรวจอยู่บนผิวจราจรหรือทางเดินรถ
  • ข. ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวังคนกำลังทำงาน
  • ค. ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวังเครื่องจักรกำลังทำงาน
  • ง. ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวังสำรวจสิ่งก่อสร้าง

เฉลย: ก. ควรขับรถให้ช้าลงและระมัดระวังทางข้างหน้ากำลังมีงานสำรวจอยู่บนผิวจราจรหรือทางเดินรถ
คำอธิบาย: เป็นป้ายเตือนให้ระวังงานสำรวจ ควรลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีคนทำงาน
  • ข. ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีรถไฟผ่าน
  • ค. ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าสำรวจทาง
  • ง. ควรขับรถให้ช้าลง

เฉลย: ง. ควรขับรถให้ช้าลง
คำอธิบาย: เป็นป้ายเตือนให้ระวัง ต้องลดความเร็วเพื่อความปลอดภัย

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีสะพานแคบ
  • ข. ขับรถให้ช้าลงเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางลงลาดชัน
  • ค. ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางขึ้นลาดชัน
  • ง. ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าต้องใช้ทางเบี่ยงด้านซ้าย

เฉลย: ง. ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าต้องใช้ทางเบี่ยงด้านซ้าย
คำอธิบาย: เป็นป้ายเตือนทางเบี่ยง ต้องชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางขึ้นลาดชัน
  • ข. ขับรถให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าต้องใช้ทางเบี่ยงด้านขวา
  • ค. ขับรถอย่างรวดเร็วเพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้าเป็นทางลงลาดชัน
  • ง. ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีสะพานแคบ

เฉลย: ง. ขับรถให้ช้าลง เพิ่มความระมัดระวัง ทางข้างหน้ามีสะพานแคบ
คำอธิบาย: เป็นป้ายเตือนสะพานแคบ ต้องลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง

  1. เครื่องหมายนี้ คือเครื่องหมายอะไร
  • ก. ที่กลับรถ
  • ข. ที่ห้ามกลับรถ
  • ค. ที่ห้ามแซง
  • ง. เริ่มต้นทางด่วน (ทางหลวงพิเศษ)

เฉลย: ก. ที่กลับรถ
คำอธิบาย: เป็นป้ายแนะนำจุดกลับรถที่สามารถกลับรถได้อย่างปลอดภัย

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ทางข้างหน้ามีที่กลับรถสามารถกลับรถได้บริเวณที่มีป้าย “จุดกลับรถ”
  • ข. ห้ามกลับรถ
  • ค. กลับรถได้เฉพาะรถยนต์
  • ง. ให้เลี้ยวซ้าย

เฉลย: ก. ทางข้างหน้ามีที่กลับรถสามารถกลับรถได้บริเวณที่มีป้าย “จุดกลับรถ”
คำอธิบาย: เป็นป้ายแนะนำจุดกลับรถ สามารถกลับรถได้อย่างปลอดภัยในบริเวณนั้น

  1. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ที่กลับรถ
  • ข. ขับรถให้ช้าลงและระมัดระวังคนข้ามทาง ถ้ามีคนกำลังเดินข้ามทางควรหยุดให้คนเดินข้ามทาง
  • ค. ที่ห้ามคนข้ามถนน
  • ง. ที่สำหรับคนพิการ

เฉลย: ข. ขับรถให้ช้าลงและระมัดระวังคนข้ามทาง ถ้ามีคนกำลังเดินข้ามทางควรหยุดให้คนเดินข้ามทาง
คำอธิบาย: เป็นป้ายเตือนทางม้าลาย ต้องระวังคนข้ามถนนและหยุดให้คนข้ามเมื่อมีผู้ใช้ทางม้าลาย

  1. การขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ให้รถทางขวามือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
  • ข. ให้รถทางซ้ายมือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
  • ค. ให้รถที่เข้าวงเวียนและจะเลี้ยวซ้ายไปก่อน
  • ง. ให้รถที่เข้าวงเวียนและจะตรงไปให้ไปก่อน

เฉลย: ก. ให้รถทางขวามือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
คำอธิบาย: กฎการเข้าวงเวียน ต้องให้รถที่อยู่ในวงเวียนไปก่อนเสมอ

  1. การขับรถเลี้ยวบริเวณทางแยกที่มีช่องจราจรมากกว่า 2 ช่องทาง ข้อใดถูกต้อง
  • ก. เปลี่ยนช่องจราจรไปทางซ้ายหรือขวาขณะอยู่ในทางเลี้ยว
  • ข. ขับคร่อมช่องจราจรเพื่อตีวงได้กว้างขึ้น
  • ค. ขับอยู่ในช่องจราจรเดิมตั้งแต่เริ่มเข้าทางแยกจนเลี้ยวเสร็จสิ้น
  • ง. ขับในช่องจราจรซ้ายสุดแล้วเปลี่ยนไปช่องจราจรด้านขวาในขณะเลี้ยว

เฉลย: ค. ขับอยู่ในช่องจราจรเดิมตั้งแต่เริ่มเข้าทางแยกจนเลี้ยวเสร็จสิ้น
คำอธิบาย: เพื่อความปลอดภัย ควรขับในช่องจราจรเดิมตลอดการเลี้ยว ไม่เปลี่ยนช่องจราจรกะทันหัน

หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย

  1. การขับรถขณะฝนตก ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ
  • ก. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
  • ข. เปิดที่ปัดน้ำฝน
  • ค. ใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
  • ง. ลดความเร็วของรถลงกว่าปกติ

เฉลย: ก. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
คำอธิบาย: ไฟฉุกเฉินใช้เฉพาะเมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น

  1. เมื่อเกิดรถเสียควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
  • ข. นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
  • ค. เผาป่าข้างทางหากเป็นกลางคืน
  • ง. นำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน

เฉลย: ง. นำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน
คำอธิบาย: เพื่อความปลอดภัยและไม่กีดขวางการจราจร

  1. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ
  • ก. สีแดง
  • ข. สีเขียว
  • ค. สีเหลือง
  • ง. สีฟ้า

เฉลย: ก. สีแดง
คำอธิบาย: ไฟสีแดงเป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติร้ายแรง ไม่ควรขับรถต่อ

  1. การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด
  • ก. นิ้วมือทั้งห้าจับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
  • ข. นิ้วมือทั้งห้ากำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
  • ค. นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
  • ง. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว

เฉลย: ก. นิ้วมือทั้งห้าจับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
คำอธิบาย: การจับพวงมาลัยที่ถูกต้องช่วยให้ควบคุมรถได้ดี

  1. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. เหยียบเบรกทันทีแล้วค่อยๆ ออกตัวเร่งความเร็วใหม่
  • ข. ถอนคันเร่ง เหยียบเบรกเพื่อใช้เกียร์ต่ำ
  • ค. ถอนคันเร่งจับพวงมาลัยให้มั่น ประคองรถต่อไป
  • ง. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป

เฉลย: ค. ถอนคันเร่งจับพวงมาลัยให้มั่น ประคองรถต่อไป
คำอธิบาย: เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเมื่อรถเสียหลัก

  1. แบตเตอรี่ควรมีฉนวนหุ้มที่ขั้วแบตเตอรี่ขั้วใด
  • ก. ขั้วบวก
  • ข. ขั้วลบ
  • ค. ไม่จำเป็นต้องมีฉนวนหุ้ม
  • ง. หุ้มทั้งสองขั้ว

เฉลย: ง. หุ้มทั้งสองขั้ว
คำอธิบาย: เพื่อป้องกันการลัดวงจรและความปลอดภัย

  1. สาเหตุไฟไม่ชาร์จเข้าแบตเตอรี่เกิดจากอะไร
  • ก. เปิดเครื่องเสียงมากเกินไป
  • ข. ฉนวนหุ้มขั้วแบตเตอรี่หลุด
  • ค. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวมากเกินไป
  • ง. ไดชาร์จชำรุดหรือสายพานไดชาร์จหย่อนหรือขาด

เฉลย: ง. ไดชาร์จชำรุดหรือสายพานไดชาร์จหย่อนหรือขาด
คำอธิบาย: เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จ

  1. สาเหตุรถสตาร์ทไม่ติดเกิดจากสาเหตุใด
  • ก. กรองอากาศตัน
  • ข. น้ำมันเบรกหมด
  • ค. น้ำในหม้อน้ำแห้ง
  • ง. แบตเตอรี่ไม่มีไฟ

เฉลย: ง. แบตเตอรี่ไม่มีไฟ
คำอธิบาย: แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานหลักในการสตาร์ทรถ

  1. การตรวจเช็กแบตเตอรี่แบบง่ายๆ ว่ามีไฟปกติหรือไม่ กระทำได้อย่างไร
  • ก. บีบแตรและฟังเสียงว่าปกติหรือเบาลง
  • ข. ออกรถ 2-3 เมตร แล้วทดสอบเบรก
  • ค. เหยียบคลัตช์และเข้าเกียร์ให้ครบ
  • ง. หมุนพวงมาลัยไปด้านซ้ายและขวา

เฉลย: ก. บีบแตรและฟังเสียงว่าปกติหรือเบาลง
คำอธิบาย: เป็นวิธีตรวจสอบแบตเตอรี่อย่างง่าย

  1. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อใด
  • ก. เมื่อมีหมอก ฝน ฝุ่น ควัน ในทางเดินรถ
  • ข. เมื่อขับรถผ่านทางร่วมทางแยก
  • ค. เมื่อจะกลับรถหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
  • ง. เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ

เฉลย: ง. เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
คำอธิบาย: ไฟฉุกเฉินใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

  1. ในกรณีที่ท่านขับรถผ่านซอยที่มีรถรอออกเป็นจำนวนมากควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. บีบแตรหรือให้สัญญาณไฟเตือนรถที่จะออกจากซอยก่อนขับผ่านไป
  • ข. เปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
  • ค. พยายามขับให้ชิดคันหน้าเพื่อไม่ให้รถในซอยแทรกออกมา
  • ง. ขับรถผ่านซอยด้วยความเร็วเพื่อส่งสัญญาณว่าขอไปก่อน

เฉลย: ข. เปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
คำอธิบาย: เป็นมารยาทที่ดีในการใช้รถใช้ถนน

  1. ทัศนคติและจิตสำนึกในการขับรถอย่างปลอดภัยของผู้ขับรถคืออะไร
  • ก. ขับรถช้า ใจเย็น
  • ข. ขับรถเก่งคล่องแคล่ว
  • ค. ขับรถอย่างมีสติเคร่งครัดวินัยจราจรแสดงออกถึงมารยาทและน้ำใจ
  • ง. ขับรถดีไม่เกิดอุบัติเหตุ

เฉลย: ค. ขับรถอย่างมีสติเคร่งครัดวินัยจราจรแสดงออกถึงมารยาทและน้ำใจ
คำอธิบาย: เป็นทัศนคติที่ถูกต้องในการขับขี่

  1. สิ่งใดที่ผู้ขับรถไม่ควรทำเมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียวให้ขับเคลื่อนรถไปได้
  • ก. ค่อยๆ เคลื่อนรถออกโดยทิ้งช่วงห่างกับคันหน้าพอสมควร
  • ข. ชะลอให้รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าเคลื่อนออกไปก่อน
  • ค. ตรวจสอบรถในทางแยกอื่นที่อาจวิ่งออกมาก่อนที่จะขับเข้าสู่ทางแยกด้านหน้า
  • ง. บีบแตรเร่งรถคันหน้าให้เคลื่อนตัวออกโดยเร็ว

เฉลย: ง. บีบแตรเร่งรถคันหน้าให้เคลื่อนตัวออกโดยเร็ว
คำอธิบาย: เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ

  1. การขับรถผ่านทางแยกที่มีสัญญาณไฟจราจรสีเหลืองกะพริบควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับผ่านไปได้เลย
  • ข. หยุดรถก่อนข้ามทางแยก
  • ค. ชะลอรถและระมัดระวังรถทางขวาง
  • ง. เร่งความเร็วผ่านไป

เฉลย: ค. ชะลอรถและระมัดระวังรถทางขวาง
คำอธิบาย: ไฟเหลืองกะพริบเตือนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ

  1. ขณะขับรถถ้าได้ยินเสียงสัญญาณฉุกเฉินควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับรถต่อไปตามปกติ
  • ข. จอดรถทันที
  • ค. ชิดซ้ายให้ทาง
  • ง. เร่งความเร็วหนีไป

เฉลย: ค. ชิดซ้ายให้ทาง
คำอธิบาย: ต้องให้ทางแก่รถฉุกเฉินเสมอ

  1. เมื่อขับรถผ่านโรงเรียนควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับรถด้วยความเร็วปกติ
  • ข. ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  • ค. ใช้เสียงแตรเตือน
  • ง. เร่งความเร็วผ่านไป

เฉลย: ข. ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
คำอธิบาย: เป็นเขตที่มีเด็กนักเรียนจำนวนมาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

  1. ข้อใดเป็นการขับรถที่ปลอดภัยที่สุด
  • ก. ขับรถด้วยความเร็วสูงแต่มั่นคง
  • ข. ขับรถด้วยความเร็วต่ำในช่องทางขวาสุด
  • ค. ขับรถด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดและสภาพการจราจร
  • ง. ขับรถตามรถคันหน้าให้ชิดที่สุด

เฉลย: ค. ขับรถด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดและสภาพการจราจร
คำอธิบาย: การขับรถตามกฎหมายและเหมาะสมกับสภาพการจราจรเป็นการขับขี่ที่ปลอดภัยที่สุด

  1. เมื่อต้องขับรถผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขังควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. ขับผ่านด้วยความเร็วปกติ
  • ข. เร่งเครื่องให้แรงแล้วขับผ่านไป
  • ค. ลดความเร็วและเปลี่ยนเกียร์ต่ำ
  • ง. จอดรถรอจนกว่าน้ำจะแห้ง

เฉลย: ค. ลดความเร็วและเปลี่ยนเกียร์ต่ำ
คำอธิบาย: การใช้เกียร์ต่ำและความเร็วต่ำจะช่วยให้ขับผ่านน้ำท่วมขังได้อย่างปลอดภัย

  1. ในกรณีขับรถตามหลังรถคันอื่น ควรเว้นระยะห่างเท่าใด
  • ก. 1 เมตร
  • ข. 2 ช่วงรถ
  • ค. ระยะห่างที่ปลอดภัยตามสภาพความเร็วและสภาพถนน
  • ง. ชิดให้มากที่สุดเพื่อป้องกันรถคันอื่นแทรก

เฉลย: ค. ระยะห่างที่ปลอดภัยตามสภาพความเร็วและสภาพถนน
คำอธิบาย: ระยะห่างที่ปลอดภัยขึ้นอยู่กับความเร็วและสภาพถนน การเว้นระยะห่างที่เหมาะสมช่วยป้องกันการชนท้าย

  1. เมื่อต้องขับรถผ่านทางรถไฟควรปฏิบัติอย่างไร
  • ก. รีบขับผ่านไปเมื่อเห็นรถไฟมาแต่ไกล
  • ข. หยุดรถ มองซ้ายขวา และฟังเสียงรถไฟก่อนขับผ่าน
  • ค. แซงรถคันอื่นเพื่อรีบข้ามไป
  • ง. จอดรถรอจนกว่าจะมีรถคันอื่นผ่านไปก่อน

เฉลย: ข. หยุดรถ มองซ้ายขวา และฟังเสียงรถไฟก่อนขับผ่าน
คำอธิบาย: ทางรถไฟเป็นจุดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องแน่ใจว่าปลอดภัยก่อนขับผ่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *