เฉลยข้อสอบใบขับขี่ล่าสุด หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย พร้อมคำอธิบาย ช่วยให้คุณเข้าใจและสอบผ่านได้แน่นอน
ข้อสอบและเฉลย 10 ข้อแรก
- การขับรถขณะฝนตก ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ
ก. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
ข. เปิดที่ปัดน้ำฝน
ค. ใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
ง. ลดความเร็วของรถลงกว่าปกติ
ตอบ ก. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง เพราะการเปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทางจะทำให้รถคันอื่นสับสนและไม่ทราบทิศทางที่เราจะเลี้ยว
- เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
ข. นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
ค. เผาป่าข้างทางหากเป็นกลางคืน
ง. นำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน
ตอบ ง. นำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดและไม่กีดขวางการจราจร
- สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ
ก. สีแดง
ข. สีเขียว
ค. สีเหลือง
ง. สีฟ้า
ตอบ ก. สีแดง เพราะไฟสีแดงเป็นสัญญาณเตือนว่ามีความผิดปกติร้ายแรงกับระบบต่างๆ ของรถ
- การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด
ก. นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
ข. นิ้วมือทั้งห้ากำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
ค. นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
ง. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว
ตอบ ก. นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว เพราะทำให้ควบคุมรถได้ดีที่สุด
- เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เหยียบเบรกทันที แล้วค่อยๆออกตัวเร่งความเร็วใหม่
ข. ถอนคันเร่ง เหยียบเบรกเพื่อใช้เกียร์ต่ำ
ค. ถอนคันเร่ง จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป
ง. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป
ตอบ ค. ถอนคันเร่ง จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป เพราะการเบรกหรือเร่งความเร็วจะยิ่งทำให้รถเสียหลักมากขึ้น
- ขณะขับรถขึ้นทางลาดชัน ถ้าเครื่องยนต์ดับควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ เข้าเกียร์ว่าง และติดเครื่องใหม่
ข. เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ และติดเครื่องใหม่
ค. เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ ดึงเบรกมือ และติดเครื่องใหม่
ง. ปล่อยให้รถไหลไป แล้วค่อยประคองรถ
ตอบ ก. เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ เข้าเกียร์ว่าง และติดเครื่องใหม่ เพราะเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยที่สุด
- ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฎิบัติอย่างไร
ก. ตั้งสติ ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง เปิดไฟฉุกเฉิน
ข. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และขับรถต่อไป
ค. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถทันที
ง. ตั้งสติ จอดรถข้างทาง
ตอบ ก. ตั้งสติ ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง เปิดไฟฉุกเฉิน เพราะเป็นการปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุดและแจ้งเตือนรถคันอื่น
- เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลำดับแรก
ก. ที่ปัดน้ำฝน
ข. น้ำในหม้อน้ำ
ค. น้ำกลั่นแบตเตอรี่
ง. ตรวจเช็คประตูหน้าต่างรถ
ตอบ ก. ที่ปัดน้ำฝน เพราะที่ปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้มองเห็นถนนได้ชัดเจนในขณะฝนตก
- ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง
ก. เมื่อไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะต่ำกว่า 150 เมตร
ข. เมื่อต้องเร่งรีบไปทำงาน
ค. เมื่อฝนตกหนัก
ง. เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน
ตอบ ข. เมื่อต้องเร่งรีบไปทำงาน เพราะการเร่งรีบไปทำงานไม่ใช่เหตุผลที่เหมาะสมในการเปิดไฟหน้ารถ
- ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับต่อไปเรื่อยๆ
ข. ลดความเร็วลงแล้วขับต่อไป
ค. หยุดรถทันทีกลางถนนห้ามเคลื่อนย้าย
ง. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้วเรียกช่างมาตรวจเช็ค
ตอบ ง. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้วเรียกช่างมาตรวจเช็ค เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรงหากขับต่อไป
- การหยุดรถบนทางลาดชัน ควรปฏิบัติตามลำดับอย่างไรจึงจะปลอดภัย
ก. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ และปลดเกียร์ว่าง
ข. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ปลดเกียร์ว่าง
ค. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ
ง. เหยียบเบรกแล้วดึงเบรกมือ
ตอบ ก. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ และปลดเกียร์ว่าง เพราะเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยที่สุดและป้องกันรถไหล
- การหมุนพวงมาลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร
ก. ทำให้หมุนพวงมาลัยง่ายขึ้น
ข. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
ค. สิ้นเปลืองน้ำมันเพาเวอร์
ง. สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
ตอบ ข. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ เพราะการหมุนพวงมาลัยขณะรถจอดจะทำให้เกิดแรงเสียดทานที่ยาง
- การหยุดรถอย่างกะทันหัน(รถไม่ใช้เบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เหยียบเบรกแรงๆโดยไม่ต้องถอนเบรก
ข. เหยียบคลัทช์ก่อน แล้วจึงเหยียบเบรก
ค. เหยียบเบรกและคลัทช์พร้อมกัน
ง. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกซ้ำๆ)
ตอบ ง. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกซ้ำๆ) เพราะช่วยป้องกันล้อล็อกและรถไถล
- รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน(รถไม่ใช้เบรก ABS) จะมีผลอย่างไร
ก. จะหยุดรถได้ตามระยะที่กำหนด
ข. ล้อจะล็อค และรถจะหมุน
ค. รถจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลง
ง. ล้อจะล็อค และรถจะหยุดทันที
ตอบ ข. ล้อจะล็อค และรถจะหมุน เพราะแรงเฉื่อยจะทำให้รถสูญเสียการควบคุม
- ขณะขับรถยางรถแตก จะมีอาการอย่างไร
ก. พวงมาลัยรถจะไร้น้ำหนัก
ข. พวงมาลัยจะหนัก รถจะเอียง
ค. รถหยุดกะทันหัน
ง. เบรกจะไม่ทำงาน
ตอบ ข. พวงมาลัยจะหนัก รถจะเอียง เพราะรถจะเสียสมดุลไปด้านที่ยางแตก
- ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. คุมสติ บังคับพวงมาลัย ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน
ข. รีบเหยียบเบรกให้เร็วที่สุด
ค. หมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเข้าข้างทาง
ง. ปลดเกียร์ว่างแล้วรีบเหยียบเบรก
ตอบ ก. คุมสติ บังคับพวงมาลัย ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการควบคุมรถ
- ในขณะที่กำลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
ข. หักเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันที เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
ค. เบรกกะทันหัน
ง. เหยียบคันเร่งให้มิดเพื่อฝากระโปรงจะได้กระแทกปิด
ตอบ ก. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
- ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร
ก. หาผ้าหนาๆ มาตบ
ข. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน
ค. วิ่งหาน้ำมันมาราด
ง. ใช้ทรายสาดใส่
ตอบ ข. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน เพราะเป็นการแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา
- การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร
ก. ทำให้เข้าเกียร์ได้ง่าย
ข. ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนดีมาก สามารถตัดสินใจได้ดี
ค. บังคับพวงมาลัยลำบาก ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่สะดวก เกิดเหตุฉุกเฉินไม่สามารถใช้คลัทช์ และเบรกได้
ง. ทำให้เบรกรถสะดวก
ตอบ ค. บังคับพวงมาลัยลำบาก ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่สะดวก เพราะระยะห่างที่มากเกินไปทำให้ควบคุมรถได้ไม่ดี
- การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร
ก. กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อค
ข. ดูว่าเป็นของใหม่หรือไม่
ค. ดูว่าเข็มขัดมียี่ห้อหรือไม่
ง. ต้องมีสีเข้มๆ
ตอบ ก. กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อค เพราะเป็นการทดสอบระบบล็อคของเข็มขัดนิรภัยซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัย
- ถ้ารถเสียหลักลื่นไถลพร้อมเสียการทรงตัว ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลำดับแรก
ก. รีบเข้าเกียร์ต่ำเพื่อชะลอความเร็ว
ข. ค่อยๆ เหยียบแป้นคลัทช์
ค. หมุนพวงมาลัยไปซ้ายบ้าง ขวาบ้าง
ง. ลดความเร็วจับพวงมาลัยให้มั่น
ตอบ ง. ลดความเร็วจับพวงมาลัยให้มั่น เพราะการควบคุมความเร็วและพวงมาลัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการกู้สถานการณ์
- การจอดรถชิดขอบทาง ล้อหน้าควรอยู่ในลักษณะใด
ก. หันเข้าหาขอบทาง
ข. อยู่อย่างไรก็ได้
ค. ตรงและขนานกับขอบทางหรือฟุตบาต
ง. หันออกจากขอบทาง
ตอบ ค. ตรงและขนานกับขอบทางหรือฟุตบาต เพราะทำให้จอดรถได้เป็นระเบียบและปลอดภัย
- การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร
ก. ไม่มีผลต่อส่วนใดของรถ
ข. เข้าเกียร์ยากและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ
ค. ทำให้น้ำมันเกียร์หมดเร็ว
ง. เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่อง
ตอบ ข. เข้าเกียร์ยากและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ เพราะเฟืองเกียร์จะเสียดสีกันมากเกินไป
- การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด
ก. ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง
ข. ถอยแบบไหนก็ได้
ค. ถอยเหมือนกับเดินหน้า
ง. ใช้ความเร็วตามสภาพของรถ
ตอบ ก. ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง เพราะการถอยหลังมีทัศนวิสัยจำกัด ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง
ก. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
ข. ปลดเกียร์ว่าง-ขึ้นเบรกมือ-สตาร์ทเครื่องยนต์
ค. เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
ง. ปลดเบรกมือ-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
ตอบ ก. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยและถูกต้องตามหลักการ
- หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. จอดรถทันที
ข. เปิดไฟหน้าเร่งความเร็วผ่านบริเวณที่ฝนตกหนัก
ค. เร่งความเร็วให้ผ่านบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว
ง. จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน
ตอบ ง. จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเมื่อทัศนวิสัยไม่ดี
- การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง มือขวาและซ้ายของผู้ขับขี่ ควรอยู่ในตำแหน่งลักษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา
ก. ตำแหน่งเลข 2 และเลข 10
ข. ตำแหน่งเลข 4 และเลข 10
ค. ตำแหน่งเลข 3 และเลข 10
ง. ตำแหน่งเลข 6 และเลข 10
ตอบ ก. ตำแหน่งเลข 2 และเลข 10 เพราะเป็นตำแหน่งที่ทำให้ควบคุมรถได้ดีที่สุด
- เมื่อขับรถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เปิดที่ปัดน้ำฝน
ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง
ค. ขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ง. ลดความเร็วของรถ
ตอบ ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง เพราะจะทำให้รถคันอื่นสับสนและไม่ทราบทิศทางที่จะเลี้ยว
- เมื่อขับรถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เปิดที่ปัดน้ำฝน
ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง
ค. ขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ง. ลดความเร็วของรถ
ตอบ ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง เพราะจะทำให้รถคันอื่นสับสนและไม่ทราบทิศทางที่จะเลี้ยว
- จากรูป หากท่านต้องการที่จะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังทุกครั้งก่อนถึงทางแยก
ข. ระวังรถด้านซ้ายเพราะอยู่ใกล้ช่องทางของเรา
ค. ระวังรถทางขวาเพียงอย่างเดียว และขับต่อไป
ง. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม
ตอบ ก. ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังทุกครั้งก่อนถึงทางแยก เพราะเป็นจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- จากรูป หากท่านต้องการที่จะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. ชะลอรถและให้รถทางขวามือขับผ่านไปก่อน
ข. ขับรถต่อไปได้เลยเพราะเราคือทางเอก
ค. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม
ง. เร่งเครื่องยนต์เพื่อขับผ่านไปก่อน
ตอบ ก. ชะลอรถและให้รถทางขวามือขับผ่านไปก่อน เพื่อความปลอดภัยและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ
- จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. หยุดรถให้ห่างเพื่อความปลอดภัย
ข. ขับไปในช่องทางขวาเพื่อเลี้ยวได้เลย
ค. เลี้ยวพร้อมกับรถคันหน้าได้ทันที
ง. ชะลอรถเนื่องจากรถคันหน้าจะเลี้ยวซ้าย
ตอบ ง. ชะลอรถเนื่องจากรถคันหน้าจะเลี้ยวซ้าย เพื่อรอให้รถคันหน้าเลี้ยวผ่านไปก่อนจึงจะปลอดภัย
- จากรูป หากท่านพบเห็นสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. เร่งความเร็วและขับผ่านไป
ข. บีบแตรและขับผ่านไป
ค. ค่อยๆ เหยียบเบรกย้ำๆ เพื่อเตือนรถข้างหลังระวังและเตรียมหยุด
ง. เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถทันที
ตอบ ค. ค่อยๆ เหยียบเบรกย้ำๆ เพื่อเตือนรถข้างหลังระวังและเตรียมหยุด เพื่อป้องกันการชนท้าย
- จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. ลดความเร็ว และระมัดระวังรถด้านซ้าย รวมทั้งคนเดินข้ามถนน
ข. เลี้ยวซ้ายได้ทันที
ค. เร่งความเร็วเพื่อให้สามารถเลี้ยวได้เร็ว
ง. บีบแตรก่อนทำการเลี้ยวรถ
ตอบ ก. ลดความเร็ว และระมัดระวังรถด้านซ้าย รวมทั้งคนเดินข้ามถนน เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย
- จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับตามรถคันหน้าให้ชิดและทำการเลี้ยวทันที
ข. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน
ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ามถนนด้วยความรวดเร็ว
ง. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนรถด้านหลัง
ตอบ ข. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน เพราะคนเดินถนนมีสิทธิ์ข้ามทางม้าลาย
- จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. ควรเลี้ยวให้ทันเนื่องจากมีรถคันใหญ่ขวางรถฝั่งตรงข้าม
ข. เร่งความเร็วเพื่อเลี้ยวขวาทันที
ค. หยุดรอในตำแหน่งที่จะเลี้ยวและให้รถด้านตรงข้ามผ่านไปก่อน
ง. ขับรถไปในช่องทางด้านขวาเพื่อทำการเลี้ยว
ตอบ ค. หยุดรอในตำแหน่งที่จะเลี้ยวและให้รถด้านตรงข้ามผ่านไปก่อน เพื่อความปลอดภัยและถูกต้องตามกฎจราจร
- จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน
ข. ขับตามรถคันหน้าให้ชิดและทำการเลี้ยวทันที
ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ามถนนด้วยความรวดเร็ว
ง. ขับรถออกในช่องทางขวาเพื่อทำการเลี้ยว
ตอบ ก. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน เพื่อความปลอดภัยของคนเดินถนน
- จากรูป หากท่านต้องการขับตรงไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. บีบแตรเพื่อให้รถคันหน้าเร่งความเร็ว
ข. ขับต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิม
ค. ลดความเร็วลง และให้ทางแก่รถที่เลี้ยวออกมา
ง. เปิดไฟฉุกเฉินและขับผ่านไปด้วยความรวดเร็ว
ตอบ ค. ลดความเร็วลง และให้ทางแก่รถที่เลี้ยวออกมา เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
- จากรูป รถคันใดอยู่ในจุดบอดของรถคันสีขาว
ก. รถ ค.
ข. รถ ก. และรถ ข.
ค. รถ ข. และรถ ค.
ง. รถ ก. และรถ ค.
ตอบ ข. รถ ก. และรถ ข. เพราะเป็นตำแหน่งที่มองไม่เห็นจากกระจกมองหลังและกระจกข้าง
- ด้วยสาเหตุใด ผู้ขับขี่จะต้องหันหน้ามองไปทางด้านข้างก่อนทำการเปลี่ยนช่องจราจร
ก. จะทำให้สามารถเปลี่ยนช่องจราจรได้รวดเร็วมากขึ้น
ข. เพื่อตรวจดูจุดบอดของรถด้านขวา
ค. เพื่อเปลี่ยนช่องจราจรในกรณีที่ไม่ต้องการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว
ง. เพื่อให้สามารถเห็นผู้คนที่เดินอยู่บริเวณทางเดินเท้า
ตอบ ข. เพื่อตรวจดูจุดบอดของรถด้านขวา เพราะมีบางจุดที่กระจกมองข้างไม่สามารถสะท้อนภาพได้
- ข้อใดคือความหมายที่ถูกต้องของจุดบอด
ก. บริเวณด้านหลังของรถที่กระจกมองหลังจับภาพไม่ได้
ข. บริเวณที่คนขับไม่สามารถมองเห็นได้ชัดในขณะขับรถ
ค. บริเวณด้านหน้าของรถที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้
ง. บริเวณด้านซ้ายของรถที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้
ตอบ ข. บริเวณที่คนขับไม่สามารถมองเห็นได้ชัดในขณะขับรถ เพราะเป็นความหมายที่ครอบคลุมจุดบอดทุกด้านของรถ
- ถ้าเครื่องดับขณะกำลังเคลื่อนที่ออกจากทางลาดชัน ท่านควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลำดับแรก
ก. ทำการเบรกทันทีเพื่อไม่ให้รถไหล
ข. เปลี่ยนไปเข้าเกียร์ว่าง
ค. ติดเครื่องใหม่
ง. เปิดไฟฉุกเฉิน
ตอบ ก. ทำการเบรกทันทีเพื่อไม่ให้รถไหล เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ
- การขับขี่ขึ้นหรือลงทางลาดชัน ควรใช้เกียร์ใด
ก. เกียร์ต่ำ
ข. เกียร์สูง
ค. เกียร์ว่าง
ง. เกียร์ใดก็ได้
ตอบ ก. เกียร์ต่ำ เพราะช่วยในการควบคุมความเร็วและแรงบิดของเครื่องยนต์
- ในการขับขี่ลงทางลาดชัน ผู้ขับขี่ควรใช้เกียร์ต่ำเนื่องจากสาเหตุใด
ก. เพื่อเพิ่มกำลังของรถ
ข. เพื่อหน่วงความเร็วของรถ
ค. เพื่อลดความร้อนของเครื่องยนต์
ง. เพื่อเพิ่มความเร็วของรถ
ตอบ ข. เพื่อหน่วงความเร็วของรถ เพราะช่วยชะลอความเร็วโดยใช้แรงหน่วงของเครื่องยนต์
- เพราะเหตุใดจึงไม่ควรใช้เบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในขณะขับขี่ลงทางลาดชัน
ก. จะทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
ข. จะทำให้เปลืองน้ำมัน
ค. จะทำให้ผ้าเบรกไหม้
ง. จะทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า
ตอบ ค. จะทำให้ผ้าเบรกไหม้ เพราะการเสียดสีต่อเนื่องทำให้เกิดความร้อนสูงจนผ้าเบรกเสียหาย
- ในการขับขี่ลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ลดความเร็วลง แต่เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย
ข. เปิดไฟฉุกเฉิน
ค. ขับรถด้วยความเร็วมากขึ้น
ง. ขับรถด้วยความเร็วปกติ
ตอบ ก. ลดความเร็วลง แต่เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่อไอเสียและเครื่องยนต์ดับ
- เหตุใดขณะขับรถลุยน้ำจึงต้องเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย
ก. เพื่อให้รถมีความเร็วคงที่
ข. เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน
ค. เพื่อให้รถมีความเร็วมากขึ้น
ง. เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
ตอบ ง. เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ เพราะแรงดันไอเสียจะช่วยป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าท่อไอเสีย
- ท่านควรปฏิบัติอย่างไรขณะขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม
ก. ขับช้าๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร
ข. พยายามไม่ใช้เบรกโดยเด็ดขาด
ค. พยายามขับจี้ท้ายรถคันหน้าตลอดเวลา
ง. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
ตอบ ก. ขับช้าๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร เพื่อความปลอดภัยและป้องกันคลื่นน้ำกระแทก
- หลังจากขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ท่านควรทดสอบระบบใดต่อไปนี้
ก. ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
ข. ระบบไฟฟ้า
ค. ระบบเบรก
ง. ระบบช่วงล่าง
ตอบ ค. ระบบเบรก เพราะน้ำอาจทำให้ประสิทธิภาพของเบรกลดลง
- ข้อใดต่อไปนี้คือประโยชน์สูงสุดของการชะลอรถด้วยเครื่องยนต์ในขณะลงทางลาดชัน
ก. ลงทางลาดชันด้วยความปลอดภัย
ข. ลดการสึกหรอของผ้าเบรก
ค. ช่วยประหยัดน้ำมัน
ง. เพิ่มการทรงตัวของรถ
ตอบ ก. ลงทางลาดชันด้วยความปลอดภัย เพราะช่วยควบคุมความเร็วของรถได้ดีกว่าการใช้เบรกอย่างเดียว
ข้อสอบชุดนี้เน้นความรู้เกี่ยวกับการขับขี่ในสถานการณ์พิเศษ เช่น การขับขี่บนทางลาดชัน การขับรถลุยน้ำ และความเข้าใจเกี่ยวกับระบบต่างๆ ของรถยนต์ ซึ่งเป็นความรู้สำคัญสำหรับการขับขี่อย่างปลอดภัย