รวมข้อสอบใบขับขี่ พ.ศ. 2568 พร้อมเฉลยละเอียด จำนวน 20 ข้อ สำหรับเตรียมสอบใบขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เนื้อหาครอบคลุมทั้งกฎจราจร การให้สัญญาณจราจร การขับรถในสถานการณ์ต่างๆ และกฎหมายจราจรที่ควรรู้ อัพเดทล่าสุดปี 2568
ข้อสอบใบขับขี่ ล่าสุด 2568 จำนวน 20 ข้อ พร้อมเฉลย
1. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ข. เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ
ค. หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร ให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
ง. เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ
เฉลย ก. เพราะความปลอดภัยบนท้องถนนเกิดจากการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
2. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
ข. เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร
ค. หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว
ง. เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว
เฉลย ก. เพราะต้องเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตรเพื่อให้รถคันอื่นรับทราบความตั้งใจ
3. บริเวณใดห้ามแซง
ก. ทางตรง
ข. ทางที่ปลอดภัย
ค. ทางโล่ง
ง. ทางโค้งรัศมีแคบ
เฉลย ง. เพราะการแซงในทางโค้งรัศมีแคบเป็นอันตรายเนื่องจากมองไม่เห็นรถที่สวนมา
4. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกินกี่เซนติเมตร
ก. ห่างไม่เกิน 35 เซนติเมตร
ข. ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร
ค. ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร
ง. ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร
เฉลย ค. เพราะการจอดรถห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตรเป็นระยะที่เหมาะสม ไม่กีดขวางการจราจร
5. ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร
ก. ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น
ข. ไม่น้อยกว่า 2 เมตร
ค. ไม่น้อยกว่า 1 เมตร
ง. ไม่น้อยกว่า 3 เมตร
เฉลย ก. เพราะต้องเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยเพื่อสามารถหยุดรถได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
6. บริเวณใดจอดรถได้
ก. ที่มีป้ายห้ามหยุดรถ
ข. ในอุโมงค์
ค. ทางร่วมทางแยก
ง. ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า
เฉลย ง. เพราะลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าเป็นพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับจอดรถโดยเฉพาะ
7. ผู้ขับรถที่ดื่มสุราเมื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะต้องไม่เกินเท่าใด
ก. ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ข. ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ค. ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ง. ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
เฉลย ค. เพราะกฎหมายกำหนดให้มีแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
8. ในเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร
ก. ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข. ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ค. ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ง. ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เฉลย ค. เพราะในเขตเมืองมีการจราจรหนาแน่น จึงต้องจำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
9. ผู้ใดได้รับยกเว้นไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์
ก. ภิกษุ สามเณร
ข. คนโดยสาร
ค. เด็ก
ง. คนขับรถ
เฉลย ก. เพราะภิกษุ สามเณร ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย เนื่องจากต้องครองจีวร
10. ข้อใดเปิดไฟฉุกเฉินได้ถูกต้อง
ก. รถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ
ข. เปิดได้ตลอดเวลา
ค. มีหมอก
ง. ผ่านทางแยก
เฉลย ก. เพราะไฟฉุกเฉินใช้เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่คนอื่นกรณีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น
11. สัญญาณจราจรไฟสีแดงที่ทำเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่องเดินรถ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างไร
ก. จอดรถในช่องเดินรถนั้น
ข. หยุดและจอดรถในช่องเดินรถนั้น
ค. ขับรถในช่องเดินรถนั้น
ง. หยุดรถในช่องเดินรถนั้น
เฉลย ค. เพราะสัญญาณกากบาทสีแดงหมายถึงห้ามขับรถในช่องเดินรถนั้นโดยเด็ดขาด
12. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนซ้ายออกไปเสมอระดับไหล่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ
ก. ด้านข้าง
ข. ด้านหน้าและด้านหลัง
ค. ด้านหลัง
ง. ด้านหน้า
เฉลย ข. เพราะเป็นสัญญาณมือที่บ่งบอกให้รถที่มาจากด้านหน้าและด้านหลังต้องหยุด
13. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณไฟกระพริบสีแดง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงให้ขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง
ข. ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง
ค. จอดรถด้วยความระมัดระวัง
ง. เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว
เฉลย ก. เพราะไฟกระพริบสีแดงหมายถึงต้องหยุดรถก่อนและตรวจสอบความปลอดภัยก่อนจึงขับผ่านไปได้
14. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณไฟกระพริบสีเหลือง ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง
ข. หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง
ค. จอดรถ
ง. เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว
เฉลย ก. เพราะไฟกระพริบสีเหลืองเป็นสัญญาณเตือนให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง
15. ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย ยกเว้นกรณีใดสามารถเดินรถทางขวาหรือล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้
ก. ไม่มีรถสวนทางมา
ข. ทางเดินรถกว้างมาก
ค. ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง
ง. ทางเดินรถมีน้ำท่วมขัง
เฉลย ค. เพราะกรณีมีสิ่งกีดขวางด้านซ้ายสามารถขับชิดขวาได้เพื่อหลบสิ่งกีดขวาง
16. การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้งหมายถึงผู้ขับขี่นั้นต้องการอะไร
ก. หยุดรถ
ข. เลี้ยวขวา
ค. จะลดความเร็วของรถ
ง. จอดรถ
เฉลย ค. เพราะการโบกมือขึ้นลงเป็นสัญญาณแจ้งว่าจะลดความเร็วของรถ
17. ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวซ้ายต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวกี่เมตร
ก. ไม่น้อยกว่า 15 เมตร
ข. ไม่น้อยกว่า 20 เมตร
ค. ไม่น้อยกว่า 25 เมตร
ง. ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
เฉลย ง. เพราะต้องเข้าช่องทางซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตรเพื่อความปลอดภัย
18. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าเท่าใด
ก. 150 เมตร
ข. 100 เมตร
ค. 60 เมตร
ง. 120 เมตร
เฉลย ก. เพราะต้องให้รถคันอื่นมองเห็นไฟหน้าหรือไฟท้ายได้ในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร
19. ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. แซงเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้
ข. ให้ขับรถชิดด้านซ้าย
ค. ในทางที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าไม่ต้องหยุดรอให้รถที่สวนมาผ่านไปได้
ง. ในทางแคบที่ไม่อาจสวนกันได้ ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่า ต้องหยุดชิดด้านซ้ายให้รถคันที่ใหญ่กว่าไปก่อน
เฉลย ข. เพราะการขับรถชิดด้านซ้ายเป็นกฎพื้นฐานของการขับรถสวนทาง
20. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะเท่าใด
ก. 60 เมตร
ข. 90 เมตร
ค. 70 เมตร
ง. 80 เมตร
เฉลย ก. เพราะการมองเห็นที่น้อยกว่า 60 เมตรถือว่าไม่ปลอดภัยในการแซง