ตัวอย่าง สคริปแรงบันดาลใจ PA เพื่อจัดทำวีดีทัศน์แรงบันดาลใจ PA ว9
การเป็นครูไม่ใช่เพียงแค่การสอน แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนทุกคน และผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ ในการดำเนินการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ (PA) สายครูผู้สอน (ว9) ต้องทำออกมาให้ดี ต้องทำด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจ ทุกสิ่งสามารถทำได้ วันนี้ครูเชียงรายขอนำเสนอตัวอย่าง สคริปวีดีโอนี้เพื่อรับแรงบันดาลใจและแนวทางในการเดินทางสู่ความสำเร็จ ครูผู้สอนทุกๆท่าน
สคริปแนวทางการจัดทำวีดีทัศน์แรงบันดาลใจ ประกอบการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ (PA) สายครูผู้สอน (ว9)
สคริปแนวทางการจัดทำวีดีทัศน์แรงบันดาลใจ
ประกอบการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ (PA) สายครูผู้สอน (ว9)
ตอนที่ 1 (แนะนำตัวเองและบริบททั่วไป)
เรียนคณะกรรมการ………………………………………………………………………………………………………………..
ชื่อ……………………………………………………………นามสกุล………………………………………………………………………….
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง…………………………………วิทยฐานะ…………………………………………………………………………
ปฏิบัติหน้าที่สอนรายวิชา…………………………….รหัสวิชา…………………………………………………………………………..
ชั้น……………………………………………………………กลุ่มสาระการเรียนรู้………………………………………………………….
โรงเรียน…………………………………………………….สำนักงานพื้นที่………………………………………………………………….
เสนอขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ……………………………….กลุ่มสาระการเรียนรู้…………………………………….
ซึ่งได้ปฏิบัติงาน (ตามระดับความความหวังของวิทยฐานะที่ขอมีหรือเลื่อน)
ตัวอย่าง
เรียนคณะกรรมการผู้ประเมินการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะที่เคารพทุกท่าน ข้าพเจ้า นายสุทธิพงษ์ บรรยงค์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษ อ่าน-เขียน รหัสวิชา อ32205 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามหาสารคาม
โดยได้เสนอขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะเป็น ครูเชี่ยวชาญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ซึ่งได้ปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง โดยการคิดค้น พัฒนานวัตกรรม และปรับเปลี่ยนให้คุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสูงขึ้น โดยได้ดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้
ตอนที่ 2 (กล่าวสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน)
…………………………………….เล่าถึงสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนรายวิชาที่ขอมีหรือเลื่อน
วิทยฐานะตามบริบทของผู้เรียนและหลักสูตรสถานศึกษา……………………………………………………………….
ตัวอย่าง
จากการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน รหัสวิชา อ32205 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Comprehension ผู้สอนได้วิเคราะห์สภาพปัญหาจากการดำเนินการผ่านกระบวนการ PLC และสัมภาษณ์นักเรียนเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ขาดความกระตือรือร้นในการเรียนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะทักษะการอ่าน พบว่า นักเรียนไม่ชอบอ่านหนังสือ ขาดทักษะในการอ่าน ไม่เข้าใจความหมายของคำ กลุ่มคำ ประโยค จึงไม่สามารถสรุปใจความสำคัญหรือความคิดรวบยอด ตีความและคิดวิเคราะห์ที่เชื่อมโยงความรู้ไปประยุกต์ใช้ในบริบทหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่สามารถตอบคำถามจากแบบทดสอบได้ นอกจากนี้นักเรียนยังขาดความ พึงพอใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพราะนักเรียนคิดว่าภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ยาก เรียนแล้วไม่ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผู้วิจัยจำเป็นต้องค้นคว้าหาวิธีการและสื่อการเรียนการสอนเพื่อนำมาปรับปรุงการการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
ตอนที่ 3 แนวทางการแก้ปัญหา (กล่าวถึงการนำเทคนิค วิธีการสอน กรอบแนวคิดการดำเนินการจัดการเรียนการสอนที่จะแก้ปัญหาผู้เรียน)
………………………………………….เล่าถึงการศึกษาค้นคว้า วิธีการสอนต่าง ๆ กรอบแนวคิดที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามเป้าหมายและตัวชี้วัดที่กำหนด…………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตัวอย่าง
จากปัญหาดังกล่าว ข้าพเจ้าได้ศึกษาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นทักษะการอ่าน ได้มีการทดลองใช้เทคนิคและวิธีการสอนแบบต่าง ๆ เพื่อจะหาว่าวิธีใดที่ดีและเหมาะสมที่สุด ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในการอ่าน เพราะถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจหรือจับใจความสำคัญจากสิ่งที่อ่านไม่ได้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งในการสอนอ่านภาษาอังกฤษมีทฤษฎีและรูปแบบการสอนต่าง ๆ ที่สำคัญที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและท้าทายให้ผู้เรียนมีความอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น
การสอนเทคนิคการอ่านถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้นักเรียนสามารถอ่านและเข้าใจความหมายจากสิ่งที่อ่านได้แล้ว เทคนิคการอ่านยังจะช่วยให้นักเรียนสามารถเป็นผู้อ่านที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่ว่าจะอ่านงานเขียนประเภทใดก็ตาม หรือเมื่อพบปัญหาในการอ่าน ผู้อ่านจะสามารถปรับวิธีการเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น จนสามารถบรรลุเป้าหมายของการอ่านได้ การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษทำได้หลายวิธี เช่น วิธีสอนทักษะการอ่านแบบ SQ3R วิธีสอนทักษะการอ่านแบบ SQ4R วิธีสอนทักษะการอ่านแบบ MIA วิธีสอนทักษะการอ่านแบบ STAD วิธีสอนทักษะการอ่านแบบ DR-TA ซึ่งแต่ละเทคนิคจะมีขั้นตอนและวิธีการการสอนการอ่านที่แตกต่างกันออกไป วิธีสอนทักษะการอ่านแบบ KWL-Plus ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ใช้พัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
วิธีการสอนแบบ KWL-Plus เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการอ่าน โดยผู้เรียนเชื่อมโยงความรู้เดิมเข้ากับความรู้ใหม่ในกระบวนการอ่าน มีการวางแผนตั้งจุดหมายว่าตนเองต้องการอะไรและตรวจสอบว่าได้บรรลุเป้าหมายที่ตนวางไว้หรือไม่ ซึ่งมีขั้นตอน คือ K ย่อมาจาก What I Know เป็นขั้นตอนที่นักเรียนตรวจสอบหัวข้อเรื่องว่าตนเองมีความรู้เกี่ยวกับหัวข้อเรื่องมากน้อยเพียงใด W ย่อมาจาก What I Want to Know เป็นขั้นตอนที่นักเรียนจะต้องถามตนเองว่าต้องการรู้อะไรในเนื้อเรื่องที่จะอ่านบ้าง โดยเป็นการตั้งเป้าหมายในการอ่าน L ย่อมาจาก What I Have Learned เป็นขั้นตอนที่นักเรียนสำรวจว่าตนเองได้เรียนรู้อะไรบ้างจากบทอ่านและจดบันทึกสิ่งที่ตนเองเรียนรู้ และ Plus หมายถึง เป็นการสร้างผังมโนทัศน์ ทำให้นักเรียนสามารถเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ด้วยการพูดสรุปความในตอนท้ายหลังจากการเขียนผังมโนทัศน์ ซึ่งทำให้นักเรียนสามารถบรรลุจุดมุ่งหมายของการอ่านได้
ตอนที่ 4 (วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล)
เล่าถึงลำดับขั้นตอนในการนำวิธีการสอน หรือนำนวัตกรรม ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียน……………………………….
ตัวอย่าง
ข้าพเจ้าได้นำวิธีการสอนแบบ KWL-Plus มาพัฒนาและออกแบบเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus มีระยเวลาตั้งแต่ ธ.ค. 64 – ก.ย. 65 โดยมีวิธีการดำเนินการ ดังนี้
1. สำรวจสภาพปัญหา พบว่า นักเรียนขาดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
2. ศึกษามาตรฐาน ตัวชี้วัด หลักการ ทฤษฎี เกี่ยวกับการสอนการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยได้เลือกใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus
3. ออกแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book)
เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus ตามแนวทางของ ADDIE Model
4. ทดลองใช้และปรับปรุงกับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
5. นำผลการทดลองมาพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus ให้ถูกต้อง เหมาะสม และสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน
6. ใช้นวัตกรรมกับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
7. ประเมินและสรุปผลการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus
ตอนที่ 5 (ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่คาดหวัง)
เล่าถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนหลังจากที่ใช้วิธีการสอน หรือนวัตกรรม ที่นำไปใช้กับผู้เรียนหรือพัฒนาผู้เรียน และชิ้นงานของผู้เรียน…………………………………..
ตัวอย่าง
จากการที่ข้าพได้นำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus รายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน รหัสวิชา อ32205 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์การเรียนรู้กับผู้เรียน ดังนี้
1. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ที่เรียนรายวิชาภาษารายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน
รหัสวิชา อ32205 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 75.77 ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้คือร้อยละ 70
2. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ที่เรียนรายวิชาภาษารายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน
รหัสวิชา อ32205 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus มีสมรรถนะการคิด (C) และคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ (A) ร้อยละ 88.85 ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้คือร้อยละ 70
3. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ที่เรียนรายวิชาภาษารายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน
รหัสวิชา อ32205 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL-Plus มีชิ้นงานสรุปองค์ความรู้ในเรื่องที่อ่าน คือ
นำความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปสรุปความรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น ผังมโนทัศน์ (Mind Mapping) วิดีโอคลิป จำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 100
ตอนที่ 6 (สรุป)
วิธีการสอน นวัตกรรมที่นำมาใช้แก้ไขปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียน และข้อเสนอแนะ………….
ตัวอย่าง
จากการที่ข้าพเจ้าได้นำเอาวิธีการสอนแบบ KWL-Plus มาออกแบบเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษารายวิชาภาษาอังกฤษ อ่าน-เขียน รหัสวิชา อ32205 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พบว่า ผู้เรียนสามารถนำวิธีการ KWL-Plus ไปการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ และความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยแต่ละขั้นตอนจูงใจให้นักเรียนอ่านจับใจความ และการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยละเอียด และพัฒนา ทักษะการเขียนสรุปความได้เช่นเดียวกันจากขั้นการเขียนสรุปความจากแผนภูมิรูปภาพ
สิ่งที่ครูควรพัฒนาต่อไปคือ การนำวิธีการสอนแบบ KWL-Plus ไปใช้กับเนื้อหาและแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาในหน่วยหรือเนื้อเรื่องอื่น ๆ