ตัวอย่างรายงานการวิจัยในชั้นเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พร้อมไฟล์เวิร์ด ดาวน์โหลดไฟล์วิจัยได้จากลิ้งด้านล่างของบทความ
วิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง รายงานผลการใช้กระบวนการร่วมมือ (Cooperative Learning) เพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง ผักสวนครัวรั้วกินได้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ความสำคัญและที่มาของปัญหา
การจัดกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีในยุคปฏิรูปการศึกษาแตกต่างไปจากการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านมานั่นคือนักเรียนได้เรียนแต่ทฤษฎีในห้อง แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ปฏิบัติงานเนื่องจากความจำกัดของสถานที่และเวลา ตลอดจนการปฏิบัติงานแต่ละครั้งนักเรียนปฏิบัติงานรายบุคคล กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนจึงไม่เกิดขึ้น มีผลให้ผู้เรียนขาดความรู้ความเข้าใจและไม่มีความสามารถเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ขาดทักษะในการทำงาน ขาดทักษะการจัดการ เป็นต้น ผู้วิจัยเป็นครูที่ปฏิบัติหน้าที่สอนวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากการสอนหลายปีการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ผู้เรียนไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรในการเรียนรู้บางเนื้อหา โดยเฉพาะเรื่อง ผักสวนครัวรั้วกินได้ จากการประเมินผลพบว่านักเรียนไม่สามารถบอกประเภทของผักสวนครัวได้ และที่สำคัญนักเรียนไม่สามารถบอกวิธีปลูกผักสวนครัว ยกเว้นผักสวนครัวที่มีวิธีปลูกอยู่ในตำราเรียนหรือใบความรู้ที่ครูแจกให้เท่านั้น แต่ในสภาพจริงของการดำเนินชีวิตนักเรียนอาจจะต้องปลูกผักสวนครัวชนิดอื่นๆ ด้วย นอกจากนั้นเมื่อครูให้ทำข้อสอบที่ถามความรู้นอกตำราเรียน นักเรียนจึงไม่สามารถตอบคำถามได้ ผู้วิจัยจึงได้คิดวิธีการที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้และทักษะในการทำงานอย่างจริงจัง จึงคิดหาวิธีการที่จะให้นักเรียนปฏิบัติงานจริงๆ คือ สามารถปลูกผักสวนครัวได้จนเจริญเติบโตแล้วนำมารับประทานหรือมาจำหน่ายได้ แต่การปฏิบัติงานเพียงลำพังคนเดียวนั้นเมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการทำงานนักเรียนอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ผู้วิจัยจึงนำกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือมาใช้ในการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพฯ ดังกล่าว
แนวคิดและทฤษฎีที่ใช้ในการวิจัย
แนวคิดและทฤษฎีที่ใช้ในการวิจัยคือ แนวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)
- ความหมาย
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ หมายถึงกระบวนการเรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถต่างกันออกเป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งเป็นลักษณะการรวมกลุ่มอย่างมีโครงสร้างที่ชัดเจน มีการทำงานร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งในส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
- องค์ประกอบสำคัญ
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือมีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
- การมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในทางบวก (Positive Interdependence) หมายถึง การที่สมาชิกในกลุ่มมีการทำงานอย่างมีเป้าหมายร่วมกัน มีการแข่งขัน มีการใช้วัสดุอุปกรณ์และข้อมูลต่างๆ ร่วมกัน มีบทบาทหน้าที่และประสบความสำเร็จร่วมกัน
- การปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดระหว่างการทำงานกลุ่ม (Face to Face Promotion Interaction) เป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกในกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
- การตรวจสอบความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละคน (Individual Accountability) เป็นกิจกรรมที่ตรวจเช็คหรือทดสอบให้มั่นใจว่าสมาชิกมีความรับผิดชอบต่องานกลุ่มหรือไม่ เพียงใด
- การใช้ทักษะระหว่างบุคคลและทักษะการทำงานกลุ่มย่อย (Interdependence and Small Group Skills) เพื่อให้งานกลุ่มประสบความสำเร็จ ผู้เรียนควรจะได้รับการฝึกฝนทักษะระหว่างบุคคลและทักษะการทำงานกลุ่ม
- กระบวนการกลุ่ม (Group Process) เป็นกระบวนการทำงานที่เป็นขั้นตอน ซึ่งสมาชิกทุกคนจะต้องทำความเข้าใจเป้าหมายในการทำงาน มีการวางแผน ดำเนินงานตามแผน ประเมินผลงานและปรับปรุงงานร่วมกัน
- ลักษณะเฉพาะของกระบวนการเรียนแบบร่วมเรียน – ร่วมรู้ (Learning Together)
เป็นวิธีการที่เหมาะสมกับเนื้อหากิจกรรมการเรียนที่มีลำดับขั้นตอนแน่นอน ผู้เรียนทำงานร่วมกันภายในกลุ่ม โดยแบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างเด่นชัด เพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานกลุ่ม
วัตถุประสงค์ในการวิจัย
เพื่อทราบผลการพัฒนาการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีเรื่องผักสวนครัวรั้วกินได้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน________________________ภาคเรียนที่_______ปีการศึกษา_________
สมมุติฐานการวิจัย
เมื่อนำกระบวนการร่วมมือแบบ Group Process มาพัฒนาการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีแล้ว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน________________________ภาคเรียนที่_______ปีการศึกษา_________ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
วิธีดำเนินการวิจัย
- วิเคราะห์ปัญหาจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
- คัดเลือกปัญหาที่สำคัญที่สุด คือปัญหาในเนื้อหาที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ หาแนวทางแก้ปัญหาโดยการนำกระบวนการร่วมมือมาใช้ในการแก้ปัญหา
- จัดทำเค้าโครงวิจัยในชั้นเรียนเพื่อที่จะได้ทราบผลการพัฒนาอย่างเป็นระบบ
- ดำเนินการวิจัยหรือดำเนินการจัดกระบวนการเรียนรู้ ดังนี้
- แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มๆละ 4-6 คน คละความสามารถ คละเพศ กำหนดบทบาทสมาชิกของทุกคน
- แจกใบความรู้และใบงานตัวอย่างเนื้อหาเรื่องผักสวนครัวรั้วกินได้ ซึ่งประกอบด้วยประเภทของผักสวนครัว วิธีการปลูกผักสวนครัว และคุณประโยชน์ของผักสวนครัว
- มอบหมายงานให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ปลูกผักสวนครัวที่นักเรียนชอบ และบันทึกผลการปฏิบัติงานตั้งแต่การทำแปลง การปลูก การดูแลรักษา จนกระทั่งสามารถนำมารับประทานหรือมาขายได้
- นำเสนอในรูปแบบรายงาน
- ครูและเพื่อนกลุ่มอื่นให้คะแนน และแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้และบันทึกความเหมือนและความแตกต่างในการปลูกผักสวนครัวชนิดต่างๆ
- ให้นักเรียนทดสอบความรู้
- นำคะแนนที่ได้จากการทดสอบและการรายงานมาสรุปผลการพัฒนาการเรียนรู้
- ประเมินผลและรายงานวิจัยที่ได้จัดทำ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน_____________________ภาคเรียนที่_______ ปีการศึกษา_________ จำนวน________คน
เครื่องมือในการวิจัย
- แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน
- แบบให้คะแนนความรับผิดชอบ
- แบบให้คะแนนการรายงาน/การนำเสนองาน
- แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
การรวบรวมข้อมูล
- รวบรวมข้อมูลจากผลการปฏิบัติงาน ความรับผิดชอบ การนำเสนองาน/รายงาน
- การทดสอบก่อนและหลังเรียน
การวิเคราะห์ข้อมูล
วิเคราะห์โดยใช้ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย
สรุปผลการวิจัย
จากผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่มีความรับผิดชอบตั้งใจปฏิบัติงานและนำเสนอรายงานได้ดีมีถึงร้อยละ_______สำหรับค่าคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบก่อนเรียนเท่ากับ_______และคะแนนเฉลี่ยการทดสอบหลังเรียนเท่ากับ________มีค่าความต่างเท่ากับ_________ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการนำกระบวนการร่วมมือมาใช้จัดกระบวนการเรียนรู้เรื่องผักสวนครัวรั้วกินได้นี้สามารถพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนในวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีได้ถึงร้อยละ______ ของจำนวนนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
อภิปรายผล
จากการนำกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดการเรียนการสอนวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่องผักสวนครัวรั้วกินได้ ซึ่งผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีผลการพัฒนาการเรียนรู้ดีขึ้น เนื่องจากกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือนั้นมีวัตถุประสงค์สำคัญคือเป็นวิธีการหนึ่งที่พัฒนาผู้เรียนในด้านวิชาการและทักษะทางสังคมและเป็นการเตรียมผู้เรียนให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือยังเป็นกระบวนการที่ทำให้บุคคลมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในทางบวก (Positive Interdependence) หมายถึงการที่สมาชิกในกลุ่มมีการทำงานอย่างมีเป้าหมายร่วมกัน มีการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ร่วมกัน ประสบความสำเร็จร่วมกัน เป็นต้น ซึ่งการเกี่ยวข้องกันในทางบวกเป็นวิธีการหนึ่งซึ่งทำให้กระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียนในชั้นเรียนหรือแม้แต่นอกชั้นเรียน มีชีวิตชีวาและทำให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นมากขึ้น
ข้อเสนอแนะ
- ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้
- ควรนำกระบวนการร่วมมือไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในเนื้อหาสาระที่เหมาะสม
- ควรนำกระบวนการร่วมมือไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
- ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
- กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งต่อไปควรจะเป็นกลุ่มอื่น
- ก่อนที่จะรายงานการวิจัยต้องมั่นใจว่าเครื่องมือที่ใช้มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสรุปว่านักเรียนมีพัฒนาการจริงหรือไม่
ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างรายงานการวิจัยในชั้นเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
เนื้อหาวิจัยในชั้นเรียน ใกล้เคียงกันสนใจอ่านเพิ่มเติมกดที่ลิ้งได้เลยครับ
สมาชิกแสดงความคิดเห็น
สนใจนวัตกรรม
13. ขณะขับรถตรวจพบแอ…
ทางรร.ไทรัฐวิทยา95จ.…
กลุ่มเรื่องฮิตที่น่าสนใจ
cover excel PA pdf powerpoint SAR ก.พ. กพ ข้อสอบ ข้อสอบคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ ครูผู้ช่วย คอมพิวเตอร์ จรรยาบรรณ ดาวน์โหลด ปก ย้าย ว21 วิจัย วิจัยในชั้นเรียน วิชาชีพครู วิทยฐานะ สอบครูผู้ช่วย แนวข้อสอบ แผนการสอน
สวยงามค่ะ