แนวข้อสอบ วิชาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู
เรื่อง วินัยและการรักษาวินัย 60 ข้อ พร้อมเฉลย
ผู้แต่ง เว็บไซต์ครูเชียงรายดอทเน็ต
1. คำว่า “วินัย” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ 2542 หมายถึงข้อใด
ก. เกณฑ์ข้อบังคับ ตามแบบแผน
ข. ระเบียบแบบแผน กฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติ
ค. ระเบียบแบบแผนข้อบังคับ ข้อปฏิบัติ
ง. กฎข้อบังคับและข้อปฏิบัติ
2. “วินัย” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Discipline หมายถึงข้อใด
ก. เครื่องวางแผนพฤติกรรมของคน
ข. เครื่องควบคุมพฤติกรรมของคน
ค. ระเบียบแบบแผนพฤติกรรมของคน
ง. ข้อปฏิบัติในการพฤติตน
3. ข้อใดไม่ใช่ ลักษณะความผิดที่เกี่ยวข้องกับวินัยข้าราชการครู
ก. ไม่มีอายุความ
ข. ยอมความได้
ค. ไม่อาจชดใช้ด้วยเงิ
ง. ลงโทษตามสภาพการกระทำ
4. ครูเอกพงษ์ สนับสนุนและวางรากฐานการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ครูเอกพงษ์มีวินัยตรงกับข้อใด
ก. วินัยต่อประเทศชาติ
ข. วินัยต่อหน้าที่
ค. วินัยต่อผู้บังคับบัญชา
ง. วินัยต่อผู้เรียน
5. ครูหนูนา ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ครูหนูนามีวินัยตรงกับข้อใด
ก. วินัยต่อประเทศชาติ
ข. วินัยต่อหน้าที่
ค. วินัยต่อผู้บังคับบัญชา
ง. วินัยต่อผู้เรียน
6. ครูพลอย ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่สั่งในหน้าที่โดยชอบด้วยกฏหมาย ครูพลอยมีวินัยตรงกับข้อใด
ก. วินัยต่อประเทศชาติ
ข. วินัยต่อหน้าที่
ค. วินัยต่อผู้บังคับบัญชา
ง. วินัยต่อผู้เรียน
7. ครูสุรเดช อุทิศเวลาประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ช่วยเหลือเกื้อกูลเคารพสิทธิ ไม่ข่มเหง ไม่ล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียน ครูสุรเดช มีวินัยตรงกับข้อใด
ก. วินัยต่อประเทศชาติ
ข. วินัยต่อหน้าที่
ค. วินัยต่อผู้บังคับบัญชา
ง. วินัยต่อผู้เรียน
8. ครูประวิทย์ ให้การต้อนรับอำนวยความสะดวก ให้ความเป็นธรรม ไม่กลั่นแกล้ง ดูหมิ่น เหยียดหยามประชาชน ครูประวิทย์ มีวินัยตรงกับข้อใด
ก. วินัยต่อผู้เรียน
ข. วินัยต่อประชาชน
ค. วินัยต่อผู้ร่วมงาน
ง. วินัยต่อตนเอง
9. ครูอุเทน รักษาความสามัคคี สุภาพเรียบร้อย ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ครูอุเทน มีวินัยตรงกับข้อใด
ก. วินัยต่อผู้เรียน
ข. วินัยต่อประชาชน
ค. วินัยต่อผู้ร่วมงาน
ง. วินัยต่อตนเอง
10. ครูสยาม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี รักษาชื่อเสียง ไม่กระทำการใดๆ ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ครูสยาม มีวินัยตรงกับข้อใด
ก. วินัยต่อผู้เรียน
ข. วินัยต่อประชาชน
ค. วินัยต่อผู้ร่วมงาน
ง. วินัยต่อตนเอง
11. โทษทางวินัยของข้าราชการครูมีกี่สถาน
ก. 3 สถาน
ข. 5 สถาน
ค. 7 สถาน
ง. 9 สถาน
12. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับโทษทางวินัย
ก. ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก
ข. ทัณฑ์บน ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก
ค. ทัณฑ์บน ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก ลาออก
ง. ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก ให้ออก
13. ข้อใดไม่เป็นโทษทางวินัย
ก. ภาคทัณฑ์
ข. ทัณฑ์บน
ค. ปลดออก
ง. ไล่ออก
14. โทษทางวินัยข้อใดเบาที่สุด
ก. ทัณฑ์บน
ข. ภาคทัณฑ์
ค. ตัดเงินเดือน
ง. ลาออก
15. โทษทางวินัยข้อใดร้ายแรงที่สุด
ก. ให้ออก
ข. ปลดออก
ค. ไล่ออก
ง. ลาออก
16. ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่างๆ ที่พึงกระทำในการปกครองระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งยุยงส่งเสริม ไม่ให้ผู้อื่นไปใช้สิทธิดังกล่าวด้วย มีโทษทางวินัยตรงกับข้อใด
ก. ภาคทัณฑ์
ข. ตัดเงินเดือน
ค. ลดขั้นเงินเดือน
ง. ปลดออก
17. มีการกระทำในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พูดชักจูงให้ผู้อื่นฝักใฝ่ในการปกครองระบอบอื่น มีโทษทางวินัยตรงกับข้อใด
ก. ภาคทัณฑ์
ข. ตัดเงินเดือน
ค. ลดขั้นเงินเดือน
ง. ปลดออก
18. ข้าราชการครูทําเฉลยข้อสอบให้นักเรียนบางกลุ่มไปติวก่อนสอบ ด้วยความห่วงใยนักเรียนเกรงว่าจะทําข้อสอบไม่ได้ อันเป็นการช่วยเหลือนักเรียนให้ได้คะแนนตามเกณฑ์การวัดผล โดยไม่ปรากฏว่ามีการเรียกร้องค่าตอบแทนจากนักเรียนแต่อย่างใด มีโทษทางวินัยตรงกับข้อใด
ก. ภาคทัณฑ์
ข. ตัดเงินเดือน
ค. ลดขั้นเงินเดือน
ง. ปลดออก
19. ข้อใดไม่เป็นโทษทางวินัย
ก. ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาคเที่ยงธรรมต่อทางราชการ
ข. ไม่มีความวิริยะอุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ไม่ดูแลเอาใจใส่รักษาประโยชน์ของทางราชการ
ค. ไม่ปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครัด
ง. ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครัด
20. การกระทำในข้อใด มีโทษลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น
ก. ฝ่าฝืนข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ข. ส่งผลการสอบแก้ตัวของนักเรียนล่าช้า ทําให้โรงเรียนไม่สามารถแจ้งผลการเรียนตามกําหนด
ค. ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ดูแลเอาใจใส่งาน ไม่ตรวจสอบเอกสารให้รอบคอบ ทําให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ หรือเกิดการทุจริต
ง. ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่างๆ ที่พึงกระทำในการปกครองระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งยุยงส่งเสริมไม่ให้ผู้อื่นไปใช้สิทธิดังกล่าวด้วย
21. นําเงินราชการที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบ ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว มีโทษตามข้อใด
ก. ตัดเงินเดือน
ข. ลดขั้นเงินเดือน
ค. ปลดออก
ง. ไล่ออก
22. “ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ โดยมีเจตนาทุจริต” กรณีนี้ เข้าข่ายเป็นความผิดวินัยตามข้อใด
ก. ความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ข. ความผิดวินัยร้ายแรง
ค. ความผิดลหุโทษ
ง. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
23. “การปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล ประมาทเลินเล่อหรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวัง ไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยในข้อใด” กรณีนี้ เข้าข่ายเป็นความผิดวินัยตามข้อใด
ก. ความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ข. ความผิดวินัยร้ายแรง
ค. ความผิดลหุโทษ
ง. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
24. การกระทำใดควรได้รับโทษ ภาคทัณฑ์
ก. ไม่มาปฏิบัติราชการเพราะป่วย แต่ไม่ส่งใบลาตามระเบียบ
ข. ไม่มาปฏิบัติราชการ แต่มาลงเวลาย้อนหลัง
ค. เบิกจ่ายไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ
ง. จัดเก็บเอกสารหลักฐานการจ่ายเงิน ไม่ถูกต้องตามระบบบัญชีของทางราชการ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้
25. ถ้าหากเห็นว่าการปฎิบัติตามคำสั่งนั้น จะทำให้เสียหายแก่ราชการหรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ ต้องเสนอความเห็นเป็นหนังสือให้ทบทวนคำสั่ง ภายในกี่วัน
ก. ภายใน 3 วัน
ข. ภายใน 5 วัน
ค. ภายใน 7 วัน
ง. ภายใน 9 วัน
26. มาลงชื่อปฏิบัติงานแล้วแต่ไม่สนใจทํางานในหน้าที่ของตนให้เรียบร้อยหรือแล้วเสร็จตามเวลาปล่อยให้งานคั่งค้าง เป็นความหมายของคำว่า
ก. ละทิ้ง
ข. ทอดทิ้ง
ค. ปล่อยทิ้ง
ง. ทิ้ง
27. ไม่อยู่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ซึ่งอาจไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการเลย หรือมาลงชื่อปฏิบัติงานแล้วออกไปนอกสถานศึกษาโดยไม่ขออนุญาต เป็นความหมายของคำว่า
ก. ละทิ้ง
ข. ทอดทิ้ง
ค. ปล่อยทิ้ง
ง. ทิ้ง
28. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกัน เป็นเวลาเกินกว่ากี่วันถือว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรง
ก. 7 วัน
ข. 9 วัน
ค. 15 วัน
ง. 30 วัน
29. ดูถูกว่าไม่ดีจริง มีความหมายว่า
ก. ดูหมิ่น
ข. เหยียดหยาม
ค. กดขี่
ง. ข่มเหง
30. กล่าวถ้อยคําหรือการแสดงกิริยาอาการดูถูกหรือรังเกียจ มีความหมายว่า
ก. ดูหมิ่น
ข. เหยียดหยาม
ค. กดขี่
ง. ข่มเหง
31. ข่มให้อยู่ในอํานาจของตน ใช้อํานาจบังคับเอา แสดงอํานาจเอา มีความหมายว่า
ก. ดูหมิ่น
ข. เหยียดหยาม
ค. กดขี่
ง. ข่มเหง
32. ใช้กําลังรังแก มีความหมายว่า
ก. ดูหมิ่น
ข. เหยียดหยาม
ค. กดขี่
ง. ข่มเหง
33. “ซื้อขายหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหรือวิทยฐานะใด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยมิชอบ” กรณีนี้ เข้าข่ายเป็นความผิดวินัยตามข้อใด
ก. ความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ข. ความผิดวินัยร้ายแรง
ค. ความผิดลหุโทษ
ง. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
33. “คัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือนำเอาผลงานทางวิชาการของผู้อื่น หรือจ้างวาน ใช้ผู้อื่นทำผลงานทางวิชาการเพื่อไปใช้ในการเสนอขอปรับปรุงการกำหนดตำแหน่ง การเลื่อนตำแหน่ง การเลื่อนวิทยฐานะหรือการให้ได้รับเงินเดือนในระดับที่สูงขึ้น” กรณีนี้ เข้าข่ายเป็นความผิดวินัยตามข้อใด
ก. ความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ข. ความผิดวินัยร้ายแรง
ค. ความผิดลหุโทษ
ง. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
34. การกระทำความผิดวินัยลักษณะใด ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวน
ก. ความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ข. ความผิดวินัยร้ายแรง
ค. ความผิดลหุโทษ
ง. ความผิดที่ปรากฎชัดแจ้ง
35. ข้อใดเป็นความผิดที่ปรากฎชัดแจ้ง
ก. เป็นผู้มีหนี้สิ้น
ข. เมาสุรา
ค. เล่นการพนัน
ง. ละทิ้งหน้าที่ราชการเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
36. โทษใดที่ให้ผู้นั้นมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญ
ก. ตัดเงินเดือน
ข. ลดขั้นเงินเดือน
ค. ปลดออก
ง. ไล่ออก
37. โทษทางวินัยของข้าราชการครูในข้อใด เป็นโทษเล็กน้อย
ก. ภาคทัณฑ์
ข. ตัดคะแนน
ค. ทัณฑ์บน
ง. ทำกิจกรรม
38. โทษทางวินัยของข้าราชการครูในข้อใด เป็นโทษไม่ถึงขั้นร้ายแรง
ก. ปลดออก, ให้ออก
ข. ลดขั้นเงินเดือน,ตัดเงินเดือน
ค. ตักเตือน, ภาคทัณฑ์
ง. ตักเตือน, ทัณฑ์บน
39. โทษทางวินัยของข้าราชการครูในข้อใด เป็นโทษไม่ถึงขั้นร้ายแรง
ก. ตักเตือน, ภาคทัณฑ์
ข. ตักเตือน, ทัณฑ์บน
ค. ปลดออก, ให้ออก
ง. ตัดเงินเดือน, ลดขั้นเงินเดือน
40. โทษทางวินัยของข้าราชการครูในข้อใด เป็นโทษร้ายแรง
ก. ภาคทัณฑ์, ลดขั้นเงินเดือน,
ข. ตักเตือน, ตัดเงินเดือน
ค. ปลดออก, ไล่ออก
ง. ตัดเงินเดือน, ลดขั้นเงินเดือน
41. ตำแหน่งครูถูกลงโทษทางวินัยไม่ร้ายแรง ก็มีสิทธิอุทธรณ์ต่อใคร
ก. ส.พ.ฐ.
ข. ก.พ.ฐ.
ค. ก.ค.ศ.
ง. อ.ก.ค.ศ.
42. ตำแหน่งครูถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง ก็มีสิทธิอุทธรณ์ต่อใคร
ก. ส.พ.ฐ.
ข. ก.พ.ฐ.
ค. ก.ค.ศ.
ง. อ.ก.ค.ศ.
43. ถ้าผู้ถูกสั่งให้ออกเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็มีสิทธิร้องทุกข์ต่อใคร
ก. ส.พ.ฐ.
ข. ก.พ.ฐ.
ค. ก.ค.ศ.
ง. อ.ก.ค.ศ.
44. การร้องทุกข์จะดำเนินการภายในกี่วัน นับแต่วันเกิดเหตุแห่งการร้องทุกข์
ก. 7 วัน
ข. 15 วัน
ค. 30 วัน
ง. 60 วัน
45. การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยต้องดำเนินการภายในกี่วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่ง
ก. 7 วัน
ข. 15 วัน
ค. 30 วัน
ง. 60 วัน
46. การลาออกต้องทำเป็นหนังสือ ต้องยื่นล่วงหน้าไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 7 วัน
ข. 15 วัน
ค. 30 วัน
ง. 60 วัน
47. ผู้บังคับบัญชาสามารถยับยั้งการลาออก ได้ไม่เกินกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
48. การลาออกแบบใดที่มีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้นั้นขอลาออก
ก. การลาออกไปเปิดธุรกิจ
ข. การลาออกเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ค. การลาออกไปเลี้ยงดูบิดามารดา
ง. การลาออกไปรับใช้ชาติ
49. ถูกสั่งลงโทษ ปลดออก สามารถมีสิทธิตามข้อใด
ก. มีสิทธิได้รับบําเหน็จ
ข. มีสิทธิได้รับบํานาญ
ค. มีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญ
ง. ไม่มีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญ
50. ถูกสั่งลงโทษ ไล่ออก สามารถมีสิทธิตามข้อใด
ก. มีสิทธิได้รับบําเหน็จ
ข. มีสิทธิได้รับบํานาญ
ค. มีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญ
ง. ไม่มีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญ
51. โทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน มีสิทธิ์อุทธรณ์ตามข้อใด
ก. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ข. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคสั่ง
ค. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ง. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
52. โทษปลดออก ไล่ออก มีสิทธิ์อุทธรณ์ตามข้อใด
ก. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ข. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ค. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ง. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
53. เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ผู้นั้นย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องร้องคดีต่อที่ใด
ก. อ.ก.ค.ศ.
ข. ก.ค.ศ.
ค. ส.พ.ฐ.
ง. ศาลปกครอง
54. การที่ผู้ถูกลงโทษทางวินัยขอร้องให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ได้หยิบยกเรื่องของตนขึ้นพิจารณาใหม่ให้เป็นไปในทางที่เป็นคุณแก่ตน มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. การร้องทุกข์
ข. การอุทธรณ์
ค. การเรียกร้องความเป็นธรรม
ง. การใช้สิทธิ์
55. ครูสมพงษ์ ปฎิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แสดงว่าครูสมพงษ์ มีศีลธรรมตรงกับข้อใด
ก. ซื่อสัตย์
ข. สุจริต
ค. เที่ยงธรรม
ง. ยุติธรรม
56. ครูสมใจ ปฎิบัติด้วยความมุ่งหมายในทางที่ดีที่ชอบตามคลองธรรม แสดงว่าครูสมใจ มีศีลธรรมตรงกับข้อใด
ก. ซื่อสัตย์
ข. สุจริต
ค. เที่ยงธรรม
ง. ยุติธรรม
57. ครูนิภา ปฎิบัติโดยไม่ลำเอียง แสดงว่าครูนิภา มีศีลธรรมตรงกับข้อใด
ก. ซื่อสัตย์
ข. สุจริต
ค. เที่ยงธรรม
ง. ยุติธรรม
58. ครูอาษา ไม่เลือกปฏิบัติไม่โอนเอน แสดงว่าครูอาษา มีศีลธรรมตรงกับข้อใด
ก. ซื่อสัตย์
ข. สุจริต
ค. เที่ยงธรรม
ง. ยุติธรรม
59. ข้อใดคือเป้าหมายสูงสุดของการส่งเสริมให้ครูมีวินัย
ก. ผู้บริหารสถานศึกษา
ข. ครูและบุคลากรทางการศึกษา
ค. นักเรียนผู้รับบริการ
ง. ประเทศชาติ
60. “การที่ข้าราชการครูปฎิบัติตามข้อกำหนดทางวินัย ตามที่กฏหมายบัญญัติอย่างเคร่งครัด ระมัดระวัง ดูแล ป้องกัน ไม่ฝ่าฝืนหรือหลีกเลี่ยง” ข้อความนี้เป็นความหมายของข้อใด
ก. การปฎิบัติตนตามแบบแผน
ข. การรักษาวินัย
ค. การเป็นตัวอย่างที่ดี
ง. การทำตามข้อกำหนด