จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 ด้าน 9 ข้อ

ข้อบังคับคุรุสภา

ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556

จรรยาบรรณวิชาชีพครูมี 5 ด้าน 9 ข้อ

จรรยาบรรณของวิชาชีพ 5 ด้าน 9 ข้อ

1.จรรยาบรรณต่อตนเอง

ข้อที่ 1 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ

2. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ

ข้อที่ 2 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ
และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ

3.จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ

ข้อที่ 3 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม
ให้กําลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า
ข้อที่ 4 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัย
ที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข้อที่ 5 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งทางกาย
วาจา และจิตใจ
ข้อที่ 6 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทําตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และผู้รับบริการ
ข้อที่ 7 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตําแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ

4.จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ

ข้อที่ 8 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์
โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ

5.จรรยาบรรณต่อสังคม

ข้อที่ 9 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นําในการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดาวน์โหลด ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ 2556

คลิกศึกษา แบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครู

  1. จรรยาบรรณข้อที่ 5 : ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ศิษย์กระทำการใด ๆ อันเป็นการหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ ข้อนี้ หากผู้นำเป็นผู้นำเคยนำพา(ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ อย่างต่อเนื่อง) มานานแสนนาน เพื่อผลประโยชน์ของตนและทีม เช่น เจ้าหน้าที่การเงิน พัสดุ หัวหน้าโครงการ และเจ้าของโครงการท่ีเก็บเงินจากคุณครูและผู้เรียน เสมอมา คุณครูคงต้องหลีกให้ห่างให้จงได้ ด้วยการ เปลี่ยนท่ีทำงานเปลี่ยนผู้นำเปลี่ยนทีมและกระจายงานด้วยน๊ะจ๊ะคุณครู สงสารตนเองและเด็กที่ไม่ค่อยได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพได้เพราะคุณครูต้องคอยเอาใจผู้นำ ที่บาปคุณครูก็บาปด้วยน๊ะจะบอกให้

  2. ลูกเรียนดี แต่เขียนช้า โดนครูย้ายจากห้อง1ไปอยู่ห้อง4 เพราะลูกเขียนช้าหรือไม่ชอบผู้ปรกครองคะ

  3. และอีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ ครูควรสอนในห้องให้เต็มที่
    การสอนหนังสือแบบเรียนพิเศษก็เช่นกัน ไม่ควรเอาตำราที่จะเรียนก่อนมาสอนล่วงหน้าในห้องเรียนพิเศษ
    ไม่ควรหวังหาประโยชน์กำไร จากกาดกดคะแนนนักเรีียน กดดันเพื่อให้ได้เรียนพิเศษ
    ปล.ความคิดเห็นส่วนตัวกับประสบการณ์จริง จึงได้มาแชร์ อิอิ

  4. ครูมัธยมส่วนใหญ่ ..เปิดสอนพิเศษ ในวิชาเอกตน
    ทำมานานละ..สอนเด็กครึ่งไว้ครึ่ง สงสารเด็กส่วนมากสอบตก ติด0 น่าจะหมดไปได้แล้ว อะไรแบบนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *