ข้อสอบใบขับขี่ 2565 รถยนต์และมอไซค์ พร้อมเฉลย ข้อสอบใบขับขี่ 2565 รถยนต์และมอไซค์ พร้อมเฉลย

ข้อสอบใบขับขี่ 2565 รถยนต์และมอไซค์ พร้อมเฉลย

สมัยนี้ใครขี่รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์แล้วไม่มีใบขับขี่ถือว่าเชยมาก อีกทั้งยังเสี่ยงโดนเสียค่าปรับ หรือ โดนคุณตำรวจจับอีก ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ ก็จำเป็นจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์พร้อมเฉลย พ.ศ. 2565 ได้รวบรวมขั้นตอนต่างๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ป้ายแดง หรือผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับข้อควรรู้ในการใช้รถใช้ถนนตามกฎหมายจราจร และผู้ที่จะต่อใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ขอให้ทุกท่านมั่นฝึกฝนทำข้อสอบ และสอบผ่านทุกๆครับ

ข้อสอบใบขับขี่ 2565 รถยนต์และมอไซค์ 30 ข้อ พร้อมเฉลย

1.การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

ข. เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ

ค. หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร ให้รถคันที่ใหญ่กวาผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน

ง. เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ

2.ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร

ข. เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร

ค. หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว

ง. เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว

3. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. หยุดทับเส้นแนวหยุด

ข. หยุดหลังเส้นแนวหยุด

ค. หยุดเลยเส้นแนวหยุด

ง. หยุดเลยป้ายหยุด

4.บริเวณใดห้ามแซง

ก. ทางตรง

ข. ทางที่ปลอดภัย

ค. ทางโล่ง

ง. ทางโค้งรัศมีแคบ

5.การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกินกี่เซนติเมตร

ก. ห่างไม่เกิน35 เซนติเมตร

ข. ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร

ค. ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร

ง. ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร

6.การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือยกเว้นกรณีใดที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้

ก.เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา

ข. แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายในทางเดินรถช่องทางเดียว

ค. แซงรถคันอื่นในช่องทางขวาของรถที่ถูกแซง

ง. แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายขณะรถวิ่งบนสะพาน

7.รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางได้

ก. รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด

ข. รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว

ค. รถที่ขาดต่อภาษี

ง. รถที่แจ้งเลิกใช้ตลอดไป

8.รถในข้อใด ห้ามนำมาใช้ในทาง

ก. รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง

ข. รถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด

ค. รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว

ง. รถที่อุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วน

9.เขตปลอดภัย หมายความว่าอย่างไร

ก. พื้นที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้ผู้ขับขี่เห็นวาปลอดภัยขับต่่อไปได้

ข. เขตที่ผู้ขับขี่สามารถนารถผานเข้าไปได้

ค. พื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจนทุกเวลาสำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้น หรือลงจากรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป

ง. เขตที่คนเดินเท้าสามารถข้ามทางได้โดยไม่ต้องหยุดรอ

10.รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางเดินรถได้

ก. รถที่มีเสียงดังกว่าเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด

ข. รถที่มีสิ่งลากถูไปบนทางเดินรถ

ค. รถที่มีล้อไม่ใช่ยาง

ง. รถที่มีเสียงเครื่องยนต์ดังในระดับ 80 เดซิเบล

11.สัญญาณจราจรไฟสีแดงที่ทาเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่องเดินรถ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างไร

ก. จอดรถในช่องเดินรถนั้น

ข. หยุดและจอดรถในช่องเดินรถนั้น

ค. ขับรถในช่องเดินรถนั้น

ง. หยุดรถในช่องเดินรถนั้น

12.เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนซ้ายออกไปเสมอระดับไหล่ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงาน จราจรจะต้องหยุดรถ

ก. ด้านข้าง

ข. ด้านหน้าและด้านหลัง

ค. ด้านหลัง

ง. ด้านหน้า

13.เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบนและตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ

ก. ด้านหลัง

ข. ด้านหน้าและด้านหลัง

ค. ด้านหน้า

ง. ด้านข้างและด้านหลัง

14. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีแดงต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุดเมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงให้ขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง

ข. ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั่นไปด้วยความระมัดระวัง

ค. จอดรถด้วยความระมัดระวัง

ง. เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั่นไปโดยเร็ว

15. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีเหลืองต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง

ข. หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง

ค. จอดรถ

ง. เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั่นไปโดยเร็ว

16. ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย ยกเว้นกรณีใดสามารถเดินรถทางขวาหรือ ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้

ก. ไม่มีรถสวนทางมา

ข. ทางเดินรถกว้างมาก

ค. ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง

ง. ทางเดินรถมีน้าท่วมขัง

17.การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง หมายถึงผู้ขับขี่นั้นต้องการอะไร

ก. หยุดรถ

ข. เลี้ยวขวา

ค. จะลดความเร็วของรถ

ง. จอดรถ

18. ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร

ก. ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น

ข. ไม่น้อยกว่า 2 เมตร

ค. ไม่น้อยกว่า 1 เมตร

ง. ไม่น้อยกว่า 3 เมตร

19. ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวซ้ายต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวกี่เมตร

ก. ไม่น้อยกว่า 15 เมตร

ข. ไม่น้อยกว่า 20 เมตร

ค. ไม่น้อยกว่า 25 เมตร

ง. ไม่น้อยกว่า 30 เมตร

20. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าเท่าใด

150 เมตร

100 เมตร

60 เมตร

120 เมตร

21. ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. แซงเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้

ข. ให้ขับรถชิดด้านซ้าย

ค. ในทางที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าไม่ต้องหยุดรอให้รถที่สวนมาผ่านไปได้

ง. ในทางแคบที่ไม่อาจสวนกันได้ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่า ต้องหยุดชิดด้านซ้ายให้รถคันที่ใหญ่กว่าไปก่อน

22. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะเท่าใด

ก. 60 เมตร

ข. 90 เมตร

ค. 70 เมตร

ง. 80 เมตร

23. บริเวณใดห้ามขับรถแซงรถคันอื่น

ก. ทางโค้งรัศมีแคบ

ข. ในกรณีที่ทางเดินรถด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวาง

ค. 150 เมตร จากทางร่วมทางแยก

ง. แซงด้านซ้ายในขณะที่มีรถรอเลี้ยวขวา

24. บริเวณใดสามารถกลับรถได้

ก. ทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ

ข. บริเวณบนสะพาน

ค. ระยะ 150 เมตร จากทางราบของเชิงสะพาน

ง. เขตปลอดภัย

25. เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย “เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด” ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

ก. ลดความเร็วของรถลงและเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที่

ข. หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวซ้ายไปได้

ค. หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป

ง. เลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที

26. ผู้ใดไม่มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522

ก. ผู้ขับขี่รถยนต์

ข. พนักงานจราจร

ค. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์

ง. คนเดินเท้า

27. ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามข้อใดไม่ถูกต้อง

ก. ลดความเร็วเมื่อถึงวงเวียน

ข. ลดความเร็วเมื่อถึงที่คับขัน

ค. จอดรถบริเวณทางร่วมทางแยก

ง. ลดความเร็วเมื่อเห็นคนกำลังข้ามทาง

28. บริเวณใดแซงได้

ก. ทางร่วมทางแยก

ข. สะพานเดินรถทางเดียว

ค. ทางโค้งรัศมีแคบ

ง. บนพื้นทางที่มีเครื่องหมายจราจรให้แซงได้

29. เมื่อจะเปลี่ยนช่องทางหรือแซงรถทุกครั้งต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. รีบเปลี่ยนช่องทางโดยเร็ว

ข. ต้องให้สัญญาณไฟหรือสัญญาณแตร

ค. แซงขึ้นหน้าแล้วเหยียบเบรกทันที

ง. รีบเร่งเครื่องแซงโดยเร็ว

30. บริเวณใดจอดรถได้

ก. ที่มีป้ายห้ามหยุดรถ

ข. ในอุโมงค์

ค. ทางร่วมทางแยก

ง. ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *