ชื่อเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา ร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย วารุณี รักษา
โรงเรียน โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) สังกัดสำนักการศึกษาเมืองพัทยา
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง น้ำและอากาศ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบเจคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/6 โรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) สังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวน 35 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 แผน 16 ชั่วโมง บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง น้ำและอากาศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 ข้อ แบบวัดเจตคติทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ ที่ผู้วิจัยได้สร้างตามแบบของลิเคอร์ท เป็นแบบมาตรฐานส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 13 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าสถิติที (t-test) ผู้วิจัยขอสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ดังนี้
สรุปผลการวิจัย
- ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 82.17/83.07 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
- เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ พบว่า หลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- เปรียบเทียบเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ พบว่า หลังเรียนนักเรียนมีเจตคติสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง น้ำและอากาศ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริม ให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์
ชื่นชมผู้วิจัยที่พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์และเจตคติทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้น
buy cialis affordable https://pharmacious.com/# cialis dosage
liquid cialis