สภาพปัญหาของผู้เรียนในวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ยังพบปัญหาอย่างมากในความรู้พื้นฐานเรื่อง วัตถุที่แม่เหล็กสามารถดึงดูดได้ เนื่องจากนักเรียนยังขาดความรู้ความเข้าใจ และทักษะในการคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ ส่งผลให้นักเรียนไม่สามารถอธิบายถึงประโยชน์ และจำแนกประเภทของวัตถุที่แม่เหล็กสามารถดึงดูดได้อย่างถูกต้อง เป็นผลให้นักเรียนเกิดความรู้สึกต่อต้าน ไม่เกิดการเรียนรู้ และรู้สึกเบื่อหน่ายต่อเนื้อหาวิชาดังกล่าว ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังไม่ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เท่าที่ควร จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการการพัฒนาทักษะการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัตถุที่แม่เหล็กสามารถดึงดูดได้ จึงนำไปสู่การนำสื่อการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ๆ ที่แปลกตา แฝงความสนุก และสามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนในช่วงวัยดังกล่าวให้อยากที่จะเรียนรู้ และฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ ควบคู่ไปกับการเรียนภาคทฤษฎี ซึ่งคาดว่าจะสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้ ครูผู้สอนจึงใช้แฟลตฟอร์มการเรียนรู้ เรื่อง วัตถุที่แม่เหล็กสามารถดึงดูดได้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาความสามารถในการเรียนวิทยาศาสตร์ และเร้าความสนใจของผู้เรียนให้ ท้าทายความสามารถ สามารถเข้าใจง่าย มีภาพ วางรูปแบบสวยงาม และสามารถฝึกได้ด้วยตนเอง อันจะส่งผลให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์และประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งแฟลตฟอร์มการเรียนรู้มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาที่เป็นทักษะมาก เพราะเป็นสื่อการสอนที่ช่วยลดภาระของครู ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะให้ดีขึ้น ส่งเสริมพัฒนาต่อยอดทางความคิดได้ ช่วยเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ให้คงทน รวมทั้งเป็นเครื่องมือวัดผลการเรียนหลังจากเรียนแล้ว ตลอดจนนักเรียนสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง ทำให้ครูมองเห็นปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียนได้ชัดเจน นักเรียนสามารถฝึกฝนได้เต็มที่นอกเหนือจากที่เรียนในเวลาเรียนซึ่งทำให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเอง เพื่อให้กิจกรรมมีความหลากหลาย ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะได้ทุกเวลา ซึ่งทำให้กิจกรรมการเรียนรู้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ประกาศนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2568 มุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งในด้านโอกาสความเท่าเทียม ความเสมอภาค คุณภาพ และสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นตามบริบทของประเทศและสังคมโลกโดยเน้นผู้เรียน “เรียนดีมีความสุข” เพื่อเป็น แนวทางให้ทุกหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ นำไปใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษาและลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่นักเรียนและประชาชนเพื่อสร้างโอกาสความเท่าเทียมอย่างทั่วถึง โดยได้จัดทำระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) ซึ่งเป็นแฟลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เป็นชุดโปรแกรมรวบรวมเนื้อหาใน 8 ประเภทเนื้อหา ได้แก่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แอปพลิเคชัน วีดีทัศน์เสียง ภาพ ข้อสอบ เทมเพลต และ มัลติมีเดีย โดยเผยแพร่ให้กับนักเรียน ครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษาและประชาชนผู้สนใจทั่วไป สามารถเข้าถึงการใช้งานเนื้อหาต่าง ๆ สำหรับการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย โดยใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา สำหรับการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุก เวลา ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในห้องเรียน หรือเรียนรู้จากที่บ้านด้วยการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเครื่องมือทั้งระบบ Online และ Offline ซึ่งสอดคล้องตามนโยบาย การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการด้านการพลิกโฉมระบบการศึกษาไทยด้วยการนํานวัตกรรม และเทคโนโลยีที ทันสมัยมาใช้ใน การจัดการศึกษาทุกระดับการศึกษา เพื่อให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งนํานวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ในการจัดการศึกษาผ่านระบบดิจิทัล ดังนั้นเพื่อให้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัลและ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับขอบข่ายการเรียนรู้ตามแผนพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการ โรงเรียนอนุบาลไทรงามมีนักเรียนที่มีความสามารถในการเรียนจากการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลและสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทำให้ความรู้ด้านเทคโนโลยี และสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่มากมาย ดังนั้นผู้สอนจึงได้ทดลองแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยวิธีการใช้ระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center ผ่านเว็บไซต์ https://contentcenter.obec.go.th มาประกอบการจัดการเรียนการสอน รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลไทรงาม วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3