ประโยชน์ของ AFTA ต่อประเทศไทย

1.  ต่อผู้ผลิต                                                                                                        

–  กระตุ้นให้มีการปรับโครงสร้างการผลิตในประเทศทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

–  ยกระดับความสามารถทางการผลิต

–  ผู้ผลิต  สามารถนำเข้าวัตถุดิบที่ถูกลง  และลดต้นทุนการผลิต

–  ผู้ผลิตสินค้าของไทย  สามารถที่จะใช้ประโยชน์จาก  Supply  Chain  ในอาเซียน  เช่น  การใช้วัตถุดิบหรือสินค้ากึ่งสำเร็จรูปจากประเทศอาเซียนอื่นๆ  หรือ  อาจโยกย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอาเซียนอื่นๆ  หรือเลือกใช้ปัจจัยการผลิตที่มีความได้เปรียบสูงสุดจากประเทศอาเซียนอื่นๆ  ได้อย่างเต็มที่  เช่น

●  กัมพูชา  ลาว  พม่า  เวียดนาม  มีจุดเด่นในด้านทรัพยากรธรรมชาติ  วัตถุดิบ  และแรงงาน

●  สิงคโปร์  มาเลเซีย  มีจุดเด่นในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม  อินโดนีเซีย  ฟิลิปปินส์  เป็นฐานการผลิต  เป็นต้น

2.  ต่อผู้ส่งออก – นำเข้า

–  ตลาดสินค้ากว้างขึ้น  สามารถรักษาตลาดเดิม  เช่น  สหรัฐฯ  ญี่ปุ่น  และขยายตลาดใหม่  เช่น จีน อินเดีย  ออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์

–  เป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาคใกล้เคียง

–  ผู้ส่งออกสามารถขยายการค้าและบริการ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันจากภาษีนำเข้าของประเทศคู่เจรจาที่ลดลง

–  สร้างพันธมิตร  เพิ่มอำนาจการต่อรอง

–  ขยายการส่งออกและโอกาสทางการค้า  เมื่ออุปสรรคภาษีและมิใช่ภาษีระหว่างอาเซียนถูกยกเลิกไปจะเปิดโอกาสให้สินค้าเคลื่อนย้ายเสรี  ไทยจะมีโอกาสที่ขยายการส่งออกไปยังอาเซียนได้มากขึ้น

3.  ต่อผู้บริโภค

–  ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง  เลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น

–  ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครอง   จากข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันของอาเซียน

4.  ต่อเกษตรกร

–  สามารถส่งสินค้าเกษตรออกไปขายได้มากขึ้น  เนื่องจากภาษีสินค้าเกษตรเป็น 0

–  สามารถตลาดขยายสินค้าเกษตรไปยังประเทศนอกกลุ่มได้  และมีอำนาจในการต่อรองที่สูงขึ้น

 

ที่มา : pcoc.moc.go.th/wappPCOC/93/upload/File_IPD_FILE9382171.doc